
ยังอยู่ในอารมณ์อินกับหนังสือชุด
The Hunger Games ก็เลยใช้เวลานั่งท่องเน็ต หาอ่านเรื่องราวเกี่ยวกับเรื่องนี้ แล้วก็รู้สึกว่า จาก
โพสต์ก่อนๆ ยังเล่าความรู้สึกของเราเกี่ยวกับหนังสือชุดนี้ไม่หมด เพราะฉะนั้นคิดว่า สมควรจะเขียนถึงอีกสักครั้ง ลองไล่ดูในเน็ต อยากอ่านพวกความคิดเห็น อยากฟังว่า คนอื่นคิดยังไงกับหนังสือที่เราชอบมากๆ ชุดนี้บ้าง ในเมืองไทย ทำไมไม่มีใครพูดถึงฮังเกอร์เกมส์สักเท่าไหร่เลยเนี่ย มีคนเขียนถึงอยู่ไม่กี่คน เศร้าจัง ทั้งๆ ที่ในเว็บเมืองนอก เรื่องนี้มีคนพูดถึงกันเยอะมาก แบบเรื่อง Twilight เลย
ที่เว็บบอร์ดเมืองนอก คนชอบเปรียบเทียบ Twilight กับ Hunger Games ไม่ค่อยเข้าใจเหมือนกัน ความจริงสองเรื่องนี้ไม่เหมือนกันเลย ทั้งแนวเรื่อง พล็อตเรื่อง อารมณ์ เหมือนอย่างเดียวคือนักอ่านเป็นกลุ่มเดียวกันมั้ง เค้าเลยชอบพูดอ้างอิงกัน เราก็ไม่อยากเปรียบเทียบสองเรื่องนี้เท่าไหร่ มันก็ดีทั้งคู่ แต่ถ้าในความรู้สึกก็ชอบฮังเกอร์เกมส์มากกว่า ตัวละครมีมิติมากกว่า จริงๆ ไม่ค่อยอยากสรุปแบบนี้นะ เดี๋ยวโดนหาว่าเป็นหน้าม้าสำนักพิมพ์ซะอีก คือเคยนานมาแล้วแหละ ไม่เกี่ยวกับ สนพ. ของสองเรื่องนี้หรอก เราโพสต์ในบอร์ดสาธารณะ ชมเรื่องหนึ่ง ติเรื่องหนึ่ง บอกว่าสู้อีกเรื่องไม่ได้ เจอจิกว่าเป็นคน สนพ. คู่แข่งเฉยเลย พอปฏิเสธว่าไม่ใช่ ไม่ได้ทำงานวงการหนังสือ ไม่มีญาติโกโหติกาอยู่สำนักพิมพ์ที่ไหนทั้งสิ้น เค้าก็ยังบอกไม่เชื่ออีก เออ เป็นนักอ่านเมืองไทย แสดงความคิดเห็นอะไรไม่ได้เลยหรือไง ต้องถูกมองว่ามีเจตนาแอบแฝง ^_^; แต่วงการหนังสือต่างประเทศเค้าใจกว้างดีนะ เพราะ The Hunger Games ได้รับคำชมหราบนหน้าปกจาก Stephen King และ Stephenie Meyer เองเลย
จากโครงเรื่อง The Hunger Games ที่บอกว่า จับเด็กมาแข่งฆ่ากัน บางคนฟังปุ๊บ บอกว่าเหมือนนิยาย/การ์ตูน/หนังญี่ปุ่นเรื่อง
Battle Royale ปั๊ป ฟังเผินๆ อาจจะเหมือน แต่เราว่า มันคนละอารมณ์กันนะ รายละเอียดต่างกันลิบลับเลย
BR รุนแรงมาก รับไม่ค่อยไหว จริงอยู่ The Hunger Games อาจไม่ใช่ไอเดียที่แหวกแนวแบบไม่เคยมีมาก่อน ผู้แต่งบอกว่า มันมีที่มาจาก รีอัลลิตี้โชว์ + สงครามอิรัก + ปกรณัมกรีกเรื่องของวีรบุรุษธีซีอุส ตอนที่เอเธนส์อยู่ใต้อำนาจเกาะครีต และต้องส่งชายหญิงอย่างละ 7 คน ไปเป็นบรรณาการให้มิโนทอร์ฆ่าในเขาวงกต แต่สุดท้ายพอจับไอเดียมารวมกัน ใส่ความคิดสร้างสรรค์เข้าไป มันก็เป็นเรื่องราวที่สนุก และมีเอกลักษณ์ของตัวเองไม่ซ้ำใคร
เท่าที่อ่านคนรีวิว คนอ่านหนังสือชุดนี้มีทั้งวัยรุ่นแล้วก็ผู้ใหญ่ พอๆ กันเลยมั้ง มีแฟนนักอ่านทั้งผู้หญิงผู้ชาย ตอนนี้คนก็กำลังอยากรอดูหนัง แต่หนังเพิ่งกำลังเตรียมสร้างอยู่เท่านั้น นักแสดงยังไม่ได้ตัวเลย แต่แค่การหาว่าใครจะมารับบทแคทนิสก็สร้างข่าวได้เยอะเหมือนกันนะ แล้วฉบับภาพยนตร์ Suzanne Collins จะเป็นคนเขียนบทเองเลย เพราะจริงๆ เธอเป็นนักเขียนบทละครโทรทัศน์มาก่อนอยู่แล้ว มิน่า ในหนังสือ ถึงมีการแบ่งแต่ละเล่มเป็น 3 องก์ องก์ละ 9 บท แล้วตอนจบแต่ละบท มันถึงจบแบบให้ได้ลุ้นตลอด
ใน Amazon เค้า discussion เรื่องนี้กันสนุกดีนะ ถึงแม้ความเห็นจะแตกต่าง แต่ก็ยกเหตุผลมาโต้ตอบกันดี ใน 3 เล่ม เรื่อง Mockingjay จะได้คะแนนโหวตดาวน้อยที่สุด อันนี้ก็เข้าใจได้นะ เพราะอารมณ์มันไม่เหมือนสองเล่มแรก แต่เราก็คาดว่า เนื้อเรื่องแบบเล่มสามนี่แหละ ที่จะทำให้เราจดจำเรื่องนี้ประทับใจไปอีกนาน เพราะมันเพิ่มระดับของเนื้อเรื่องจาก action ให้มีความลึกเพิ่มขึ้น มีหัวข้อที่แฟนๆ แบ่งข้างเชียร์พีต้ากับเกล เหมือนสมัยเอ็ดเวิร์ดกับเจค็อบเลย ในบรรดาทั้งหมดที่เข้าไปอ่าน เราชอบที่เว็บ
Forever Young Adult อ่านแล้วสนุกสุดๆ อ้อ ที่นั่นสปอยล์นะคะ เพราะเค้าอ่านไปเล่าไปทีละ 5-6 บท บอกความรู้สึกเค้าไปตลอด ละเอียดมาก เค้าเขียนดีมาก อ่านสนุก ความคิดความรู้สึกเค้าต่างจากเราเยอะเลย ชอบมากเลยค่ะ อ่านแล้วได้มุมมองใหม่ๆ ที่ไม่เหมือนตัวเองคิด ฮิฮิ แต่มันมีเรื่องที่เค้า debate กันเรื่องพีต้า vs. เกล ทำให้เราอยากจะพูดความเห็นตัวเองบ้าง ในประเด็นสำคัญเกี่ยวกับตัวละครคนโปรดของเรา
เนื้อหาต่อไปนี้คือสปอยล์อย่างแรง แบบเฉลยฉากจบ
เตือนซ้ำ!! สปอยล์สุดๆ จริงๆ เกี่ยวพันกับเนื้อหาทั้งเรื่อง ยังไม่อ่านอย่าคลิกนะคะ สำหรับคนที่อ่านแล้วแชร์ความคิดกันเท่านั้น ได้โปรดหยุดฟังคำเตือนนี้

Update (11 ต.ค. 54)
เราพอจะรู้คำตอบแล้วล่ะว่า ทำไมเรื่องนี้ในเมืองไทยมันถึงไม่ดัง คงเพราะคุณภาพการแปลฉบับภาษาไทยนี่เอง ในงานหนังสือ เราซื้อเล่ม 1-2
เกมล่าชีวิต กับ
ปีกแห่งไฟ มา คราวที่แล้วเราลังเลว่าจะซื้อภาษาไทยดีมั้ย เพราะไม่ค่อยชอบงานแปลฝีมือนาธานเท่าไหร่ ตั้งแต่สมัยเดลโทร่าเควสต์ ที่ชอบใช้คำลิเก แต่เพราะเราชอบ
Hunger Games จริงๆ เลยอยากจะเก็บเรื่องนี้ อ่านฉบับแปลไทยไปแค่นิดหน่อย ก็เจอจุดที่ขัดใจเพียบ มีตั้งแต่จุดเล็กน้อยเรื่องการเลือกใช้คำแปลที่แปลกๆ หรือแปลคำตรงตัวเกินไปจนอาจทำให้คนอ่านไม่เข้าใจความนัย ไปจนถึงประโยคที่แปลผิดความหมายจากต้นฉบับจังๆ หลายที่ เราทั้งเศร้าและโกรธ ที่หนังสือชุดที่เรารักโดนกระทำแบบนี้
เพราะฉะนั้นอยากบอกทุกคนว่า อย่าซื้อฉบับภาษาไทยเลยค่ะ อ่านต้นฉบับสนุกกว่าเยอะ เรื่องนี้ภาษาอังกฤษอ่านไม่ยากเลย เป็นนิยาย YA ศัพท์ที่ Suzanne Collins ใช้ก็ระดับเด็ก ม.ปลาย ทั้งนั้น
Update (21 ม.ค. 55)
สำนักพิมพ์บอกว่าจะแก้ไขการแปลภาษาไทยในการพิมพ์ครั้งต่อไป ก็รอดูค่ะ
Update (17 ก.พ. 55)
เกมล่าชีวิตฉบับที่พิมพ์ปกใหม่ ยังไม่ได้แก้ไขคำแปลนะคะ เห็นว่าต้องรอครั้งต่อไป
Update (4 ก.ค. 55)
ฉบับปรับปรุง เล่ม 1 กับ เล่ม 2 ออกมาแล้วนะคะ ถ้าใครที่รอซื้อภาษาไทยอยู่ก็คงซื้อได้แล้ว เพราะแก้ไขตรงที่ผิดเยอะๆ แล้ว แต่โดยส่วนตัวแล้วเรายังรู้สึกว่าน่าจะทำให้ดีกว่านี้ได้ ยังไงก็ยืนยันว่า ถ้าอ่านภาษาอังกฤษได้อ่านต้นฉบับดีกว่ามากค่ะ สนุกกว่าเยอะ