เพิ่งเห็นว่า นิยายเรื่อง The Hunger Games มีแปลเป็นไทยแล้วชื่อ เกมล่าชีวิต เราก็ไม่ค่อยได้ติดตามความเคลื่อนไหวในตลาดหนังสือซะเท่าไหร่ แต่ทำไมรู้สึกว่า ในเมืองไทยเรื่องนี้ไม่ค่อยดังเลย น่าเสียดายจัง เรื่องดีๆ อยากให้คนได้อ่านเยอะๆ เสียดายที่ปกฉบับภาษาไทยออกแบบอย่างนั้นด้วย ไม่ใช่ไม่สวยนะ แต่เราว่า มันไม่โดดเด่นมีพลังเท่าปกฉบับภาษาอังกฤษ และสูญเสียความหมายจากเนื้อเรื่องตามแบบปกต้นฉบับไป ที่ปกเล่มแรกเป็นเข็มกลัดนก Mockingjay ของแคทนิส เล่มสองนกเริ่มมีชีวิต ติดไฟต่อสู้ และเล่มสาม ปกสีฟ้า นก Mockingjay ทลายสิ่งที่เป็นเหมือนเป้า เลิกเป็นเสมือนเหยื่อที่ถูกไล่ล่า เชิดหัวขึ้นออกโบยบินสู่อิสรภาพ
นี่เป็นเล่มอวสานของนวนิยายไตรภาค Hunger Games จากเล่มที่แล้วที่ทิ้งท้ายเรื่องโดยปล่อยผู้อ่านค้างไว้ริมหน้าผา ในเล่มนี้บทสรุปเรื่องราวทุกอย่างจบลงสมบูรณ์ ถ้าคุณมองคะแนนของสองเล่มก่อนที่เราให้ไว้ แล้วเห็นคะแนนเล่มนี้ จาก 8.5 --> 9 --> 8 อย่าเพิ่งคิดว่า เล่มนี้แย่ลง ที่จริงมันเป็นเล่มที่ดีขึ้นด้วยซ้ำ แต่คะแนนที่เราให้ไม่ใช่คะแนนคุณค่าของหนังสือ แต่มันเป็นคะแนนที่ให้โดยวัดจากความรู้สึกว่า เราอยากจะเอามันกลับมาอ่านซ้ำบ่อยครั้งแค่ไหนต่างหาก และเราไม่คิดว่าเราจะรับการอ่านที่ทำให้ตัวเองเศร้าอยู่ลึกๆ บ่อยๆ ได้
Mockingjay เป็นเล่มที่เครียดและหนักที่สุดในชุด ผู้แต่ง Suzanne Collins ได้ไอเดียการแต่งเรื่องนี้มาจากการเปิดโทรทัศน์ดูในวันหนึ่ง เป็นรายการรีอัลลิตี้โชว์ พอเปลี่ยนช่องเจอข่าวสงครามอิรัก สองสิ่งรวมกันนำไปสู่ Hunger Games สองเล่มแรกเราได้เห็นเกมไล่ล่าเอาตัวรอดที่อ่านสนุกสนาน ประดุจดูรายการแบบ Survivor แต่ที่สุดเราต้องไม่ลืมว่า ฮังเกอร์เกมส์คือเกมที่มีต้นกำเนิดมาจากด้านมืดของมนุษย์ มันเป็นเกมที่สกปรกน่ารังเกียจ การจับเด็กมาฆ่ากันถ่ายทอดเป็นรายการทีวีให้คนทั่วประเทศดู เล่มนี้ Suzanne Collins เตือนให้เราเห็นอีกครั้งว่า การฆ่ากันไม่ใช่เรื่องสนุก สงครามเป็นความโหดร้ายทารุณ และผู้มีอำนาจในมือนั้นไว้ใจไม่ได้!
ในเล่มนี้การดำเนินเรื่องไม่เหมือนสองเล่มก่อน เนื้อเรื่องพัฒนาออกนอกขอบเขตของฮังเกอร์เกมส์ ตอนนี้เขตต่างๆ ลุกฮือขึ้นต่อต้านเมืองหลวงอย่างเปิดเผย แคทนิสต้องรับบท Mockingjay สัญลักษณ์การต่อสู้ของฝ่ายกบฏ ชีวิตของแคทนิสที่ผ่านมาก็บังคับให้เธอต้องต่อสู้ยิบตาเพื่อเอาตัวรอดมาตลอดอยู่แล้ว แต่ในเล่มนี้ เธอต้องเจอการทดสอบเข้าไปอีกครั้งแล้วครั้งเล่า ตอนอ่านกลางๆ เรื่อง กดดันมากๆ
สปอยล์
นี่เป็นครั้งที่สามติดๆ กันที่เราต้องเขียนชมการเล่าเรื่องของผู้แต่ง การบรรยายเนื้อเรื่องลื่นไหลมาก การจบบท การเล่าย้อนความหลังแทรกเข้ามา การใช้คำ บทสนทนา บทเพลงในเรื่อง แคแรกเตอร์ตัวละคร ทำได้ดีไปหมดเลย เนื้อเรื่องยังคงอ่านสนุกมีประเด็นพลิกไปมา แต่ก็อ่านแล้วเศร้าปนหดหู่ นี่เป็นนิยาย YA แต่มันมีเนื้อหาที่มีความลึกอยู่มากทีเดียว ถ้าเด็กวัยรุ่นอ่านหนังสือเล่มนี้ พวกเขาน่าจะเป็นผู้ใหญ่ขึ้นหลายปี มันไม่ใช่การสอนสั่ง แต่มันทำให้คนอ่านได้คิด หวังว่า เด็กที่ได้อ่าน จะไม่พลาดประเด็นสำคัญๆ พวกนี้ไป ความตายที่เกิดขึ้นมากมายในท้ายเรื่อง ชีวิตที่สูญเสียไปโดยไร้ความหมาย เป็นสิ่งที่ไม่ควรเกิด มนุษย์ควรจะตระหนักเรื่องเหล่านี้ให้มากๆ ใช่มั้ย และอย่างน้อย เนื้อเรื่องตอนจบสุดท้ายก็ยังมอบความหวังให้แก่เรา แม้ว่าอาจต้องเจอสิ่งเลวร้ายแค่ไหน แม้จะสูญเสียทุกอย่าง สิ้นหวังซะจนคิดว่าความตายน่าจะดีกว่า แต่ในที่สุดแล้ว การเลือกที่จะมีชีวิตอยู่ต่อไปก็ไม่ใช่การตัดสินใจที่ผิด
6 ความคิดเห็น:
จดไว้ครับ ไว้ตามอ่าน
อย่าพลาดด้วยประการทั้งปวง อยากให้ได้อ่านกันเยอะๆ ค่ะ เรื่องสนุกมาก เป็นหนังสือไตรภาคที่ดีจริงๆ อ่านจบหลายวันแล้วก็ยังประทับใจอยู่เลย แทบไม่อยากอ่านเรื่องอื่นต่อช่วงนี้เลย
@nas เราโครตเข้าใจความรู้สึกเทอเรยอ่าาา
มีผู้ร่วมชะตาที่เข้าใจความรู้สึก T_T กันอีกคนแล้ว ฮ่าฮ่า ^_^
อ่านแปล ไทย มา 2 เล่มแล้ว อยากอ่าน เล่ม3 ไวๆ แต่ยังไม่มีแปลไทย ผมไม่ค่อยสันทัดเรื่องภาษา :((
เห็นว่าเล่ม 3 ฉบับแปลออกมาแล้ว แต่ยังไม่เห็นเล่มจริงค่ะ ช่วงนี้ไม่ได้ไปร้านหนังสือเลย
แสดงความคิดเห็น