วันอังคารที่ 28 ธันวาคม พ.ศ. 2553

Cotillion - Georgette Heyer

คะแนน : 9
จริงๆ ยังไล่อ่าน Georgette Heyer ไม่หมดเลย ที่กะจะอ่านเรื่องต่อไปคือ An Infamous Army แต่เพราะความที่เขาว่า นางเอกเรื่องนี้เป็นแบดเกิร์ลคนเดียวของ Heyer ทำให้ ว่าจะ ว่าจะ มานาน แต่ก็ยังไม่อยากอ่านอยู่ดี ตอนนี้ต้องอ่านอะไรที่ทำให้อารมณ์ดี ในที่สุดก็มาลงเรื่องนี้แทน Cotillion เป็นเรื่องของ Heyer ที่เราชอบที่สุด ชนะ Faro's Daughter นิดนึง อ่านมาสองปีนี่เป็นรอบที่ 4 แล้ว

เรื่องมันเริ่มมาจากการที่มิสเตอร์เพนนิควิก มหาเศรษฐีขี้เหนียวผู้ไม่เคยแต่งงานไม่มีทายาท เรียกตัวพวกหลานชายของเขามาที่บ้านในชนบท เพราะเขาตกลงใจจะทำพินัยกรรม ยกสมบัติให้สาวกำพร้าที่เป็นเด็กในอุปการะของเขา แคทเธอรีน ชาร์ลิง โดยมีเงื่อนไขว่า เธอต้องแต่งงานกับหนึ่งในบรรดาหลานชาย ถ้าไม่เช่นนั้น ก็จะยกสมบัติทั้งหมดให้การกุศลแทน สมบัติมหาศาลมากปีละ 20,000 ปอนด์ ขนาดมิสเตอร์ดาร์ซี Pride and Prejudice ที่มีรายได้ปีละ 10,000 ปอนด์ก็นับว่ารวยมากแล้ว เจตนาที่แท้จริงคือ เขาต้องการบีบให้แจ็ค เวสรูเธอร์ หลานชายคนโปรด แต่งงานกับคิตตี้ แต่แจ็คกลับรู้ทันและไม่ยอมมา เพราะคิดว่ายังไงเสีย คิตตี้ซึ่งแอบชอบเขาอยู่ก็คงไม่ยอมแต่งงานกับคนอื่น

แล้วเราก็ได้เห็นชายหนุ่มคนหนึ่งก้าวเท้าเข้ามา เขาตัวไม่สูง ไม่หล่อ ไม่เท่ แต่การแต่งกายวิจิตรบรรจงเลิศหรูมาก Heyer เขียนบรรยายการแต่งตัวของเขาตั้งแต่หัวจรดเท้ายาวเต็มหน้า เขาคือ มิสเตอร์เฟรดเดอริก สแตนเดน เฟรดดี้เป็นหนึ่งในหลานชาย แต่เขามาสายและยังไม่รู้สาเหตุที่ถูกเรียกตัวมา คิตตี้ที่กำลังเจ็บใจแจ็คก็เลยวางแผนขอให้เฟรดดี้ช่วยรับเป็นคู่หมั้นกำมะลอ แล้วพาเธอไปลอนดอน เจตนาในใจเธอที่ไม่ยอมบอกเขาก็คือ นี่เป็นแผนเพื่อจะยั่วแจ็คให้สำนึก เฟรดดี้ซึ่งออกจะเคร่งครัดเรื่องขนบธรรมเนียมก็ปฏิเสธก่อน ฉากนี้น่ารักมาก คิตตี้นี่คงไม่มีใครสอน เพราะถูกเลี้ยงดูอย่างจำกัด แต่เขาว่าผู้หญิงมีมารยาร้อยเล่มเกวียน คิตตี้ก็หยิบมาใช้ตรงนี้เล่มเกวียนสองเล่มเกวียนจะเป็นไร บีบน้ำตาจนเฟรดดี้ใจอ่อนยอมตามแผน แล้วทั้งสองก็เดินทางมาลอนดอน

เนื้อเรื่องอ่านสนุกเบาสมอง แต่ที่ทำให้เราชอบเรื่องนี้ที่สุดคือตัวละคร พระเอกนางเอกเรื่องนี้น่ารักมาก เฟรดดี้คือตัวอย่างที่ชัดเจนที่สุดของพระเอกแบบเบต้า เขาแตกต่างจากพระเอกโรแมนซ์ทั่วไปมาก ตอนอ่านครั้งแรกฉากที่เขาปรากฏตัว เราไม่รู้ว่านี่คือพระเอก ก็ท่านเฟรดดี้เล่นเดินเข้ามาปุ๊บก็ส่องกระจกก่อน พอเห็นคอปกเสื้อยังตั้ง ผ้าผูกคอไม่ยับ ก็คลายวิตก เราก็เอ๊ะ นึกในใจว่า หมอนี่เกย์รึเปล่าวะ แล้วดูเฟรดดี้เก่งแต่ละอย่าง เต้นรำเก่ง กิริยามารยาทการโค้งไม่มีที่ติ เซ้นส์เรื่องแฟชั่นสุดเนี้ยบ จะไม่ให้เราสงสัยได้ไง แต่ยกประโยชน์ให้ถือว่าเป็นค่านิยมสมัยนั้นแล้วกัน 55 ไม่งั้นเดี๋ยวจะฝันสลาย ขำตอนถูกคิตตี้กับญาติอีกคนดึงชายแขนเสื้อ ก็หันมาดุ บอกว่า นี่เสื้อโค้ตตัวใหม่ใส่ครั้งแรกนะ เฟรดดี้ไม่ซ่า ไม่ห้าว เป็นผู้ชายเรียบๆ ธรรมดา พวกญาติๆ คิดกันว่าโง่ด้วยซ้ำ แต่เฟรดดี้เป็นคนจิตใจดีมาก และถึงเขาจะไม่ใช่คนฉลาดแบบคงแก่เรียน หรือมีคารมคมคายไหวพริบปฏิภาณเฉียบแหลมอะไร แต่เฟรดดี้ก็รอบคอบ มีสามัญสำนึกดี รู้ทันคน และแก้ไขสถานการณ์ได้เก่งมาก

ส่วนคิตตี้ที่ตอนแรกจะทำตัวเด็ก แต่พอมาลอนดอนปุ๊บ คิตตี้ก็เริ่มสำนึกทันที และก็เป็นนางเอกที่น่ารักมากๆ อีกคน คิตตี้ค่อยๆ เรียนรู้ว่า ผู้ชายแบบพระเอกอัศวินในนิยายนั้น ที่จริงแล้วสู้ผู้ชายดีๆ ในชีวิตจริงไม่ได้ ส่วนแจ็ค หล่อ เท่ เสเพล ถึงจะนิสัยไม่ดี และผยองไปหน่อย แต่ตัวละครแบบเขานี่แหละ ที่เป็นพระเอกในนิยายโรแมนซ์เรื่องอื่นอีกร้อยเรื่อง นานๆ ทีจะได้เห็นคนดีชนะพวกเสเพลบอยมั่ง และฝีมือระดับปรมาจารย์นี่ ก็ไม่ได้ทำให้เรารู้สึกว่า นางเอกรักพระเอกเพราะแค่ความเป็นคนดีเฉยๆ แต่รักเพราะรักจริงๆ เพราะอ่านแล้วจะรู้สึกว่าเฟรดดี้เท่มาก พอเทียบกันแล้วเฟรดดี้ชนะแจ็คทุกประตูเลย กรี๊ดกับท่านเฟรดดี้จริงๆ ตัวละครประกอบอื่นก็ดีทุกคน ครอบครัวของเฟรดดี้ น่ารักทั้งบ้าน พ่อเฟรดดี้เป็นคนฉลาด ชอบฉากที่เฟรดดี้คุยกับพ่อมากๆ เลย

ตอนอ่านจบหน้าสุดท้ายนี่แทบยังไม่อยากให้จบเลย อยากให้มีฉากเซอร์วิสคนอ่านหวานๆ นานกว่านี้อีกหน่อย ความรู้สึกเหมือนได้กินของอร่อยมาก แต่มีน้อย พอหมดคำสุดท้ายแล้ว ก็ทิ้งให้เราโหยหาอยากกินอะไรรสชาติอย่างนี้อีก

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น