คะแนน : 7.25
เปิดศักราชใหม่แล้ว วันหยุดปีใหม่นี่มีความสุขดีนะคะ ถือโอกาสอู้ต่อสองสามวัน มีคนบอกเราว่า พออายุมากขึ้น บางทีเราก็ต้องการอะไรน้อยลง มีความสุขง่ายขึ้น อืมม์ มันก็จริงนะ แค่ได้วันหยุดหลายวันอยู่สบายเฉยๆ ก็แฮปปี้แล้ว ทบทวนปีที่ผ่านมา เราว่าเป็นปีที่ตัวเองมีความสุขดี ต่างจากบางปีที่ยุ่งวุ่นวาย จนหนังสือที่ซื้อมายังไม่ได้แกะพลาสติกมีกองท่วม ปีนี้อ่านหนังสือได้เยอะพอสมควร แต่เพราะมันเป็นปีที่ค่อนข้างสบาย ก็ไม่ค่อยได้อะไรมาเป็นชิ้นเป็นอัน ปีนี้ล่ะ อาจจะต้องหยุดเที่ยวเล่นลดการอ่านนิยาย ทุ่มเทเพื่ออนาคตซะที
ทิ้งช่วงจากภาควีรกรรมผู้กล้ามานานพอสมควรแล้ว ได้เวลากลับมาอ่านเรื่องนี้ให้จบซะที เนื้อเรื่องไม่ได้ต่อเนื่องจากภาคที่แล้วเท่าไหร่นะนี่ เวลาผ่านไปหลายร้อยปี มาถึงยุคราชวงศ์หมิง ชื่อเหลียงเซียวเหลือมาถึงภาคนี้แค่เป็นตำนาน วิชาฝีมือที่กล่าวถึงก็ดัดแปลงไปเยอะแทบไม่เหลือเค้าเดิม จริงๆ จะบอกว่าเป็นคนละเรื่องก็ยังได้ แต่ผู้แต่งอยากจะเชื่อมโยงก็โอ เป็นสีสันให้มีความต่อเนื่อง
วิชาฝีมือภาคนี้นี่มันการ์ตูนชัดๆ เลยนิ เราไม่มีปัญหาเพราะโตมากับการ์ตูนอยู่แล้ว แต่สงสัยว่า พวกคอกำลังภายในรุ่นเดอะ อ่านแล้วจะทำหน้ายังไง ศพผีน้ำ วิทยายุทธ์อิทธิฤทธิ์ สิทธิฤทธิ์ เนตรกระบี่ จุดไฟออกจากตาได้ด้วย โอ้โฮเฮะ นึกว่ากำลังอ่าน BOOM อยู่ซะอีก
ภาคนี้ก็อ่านสนุกนะ ดำเนินเรื่องเร็ว แต่ปัญหาจากภาคที่แล้วก็ยังอยู่เหมือนเดิม ไม่มีแก่นหลักของเรื่อง ตัวเอกไม่มีเป้าหมาย สู้ไปเรื่อยๆ เจอคนนั้นคนนี้ ผ่านประสบการณ์พิสดารไม่หยุดหย่อน ไปเป็นฉากๆ เนื้อเรื่องไม่ค่อยปะติดปะต่อ แล้วจะไปญี่ปุ่นเจอ โอดะ โนบุนากะ ทำไมฟะ ไม่เห็นสำคัญกับเนื้อเรื่องตรงไหน ตัวละครที่เป็นคนจริงในประวัติศาสตร์ไม่ใช่นึกอยากใส่ก็ใส่นะ ถ้าไม่มีความหมายก็ไม่ต้องใส่มาก็ได้ ลองดูตัวอย่างจากกิมย้ง ดูบทเจ็งกิสข่านในมังกรหยก หรือคังซีในอุ้ยเซี่ยวป้อ เป็นต้น
เนื้อเรื่องจะว่าสนุกก็สนุก แต่บางทีก็ เอิ่ม.. ตอนเฉลยชาติกำเนิดลู่เจี้ยนเล่ม 6 ไม่รู้จะหัวเราะหรือไม่หัวเราะดี โห มุกนี้ยังเล่นอยู่อีก แล้วเสิ่นโจวซวี กับ กู่เสินทง ตายโคตรง่ายเลย ตอนหลังออกทะเลก็ออกทะเลจริงๆ ไปถึงอังกฤษ แก้ปริศนาหาไอเทม ยังกะเกม RPG เนื้อเรื่องเป็นแบบอ่านเอามันส์ แต่มันไม่งดงามแบบภูษิตฟ้าไร้ตะเข็บ ที่รายละเอียดทุกอย่างเชื่อมกันหมดจด
ตัวละครน่าเบื่อ ไม่มีมิติ ลู่เจี้ยนไม่มีบุคลิกอะไรเด่นเลย กู่เจินคล้ายเซียวฮื้อยี้ แต่ไม่มีเสน่ห์เท่า เหยาฉิงนี่ร้ายเกินไป ไม่น่ารักจริงๆ นั่นแหละ นางเอกน่ะเป็นนางมารน้อยได้ แต่อาฉิงนี่เกือบจะเป็นอาจี่แห่งแปดเทพฯ ได้แล้วนะ เฟิ่งเกอคงยังไม่ค่อยได้ผ่านประสบการณ์ชีวิตมากมาย การเขียนเรื่องความสัมพันธ์ของผู้คนมันถึงไม่ค่อยลึกซึ้ง เรื่องบุญคุณความแค้นนี่เป็นไปตามแบบฉบับมาก เรื่องความรักภาคนี้ก็ไม่ได้พัฒนาจากภาคก่อนเท่าไหร่ แหม มีนักอ่านชายยุว่าทำไมพระเอกไม่รวบสอง ไม่ดีค่ะ อย่าเลย คนรุ่นใหม่ รักเดียวใจเดียวแบบนี้ดีแล้ว ลู่เจี้ยนที่ทื่อๆ แต่ก็ยังอุตส่าห์งัดคำพูดเท่ๆ มาพูดให้โดนใจเราได้นิดนึง มันไม่ได้แปลกใหม่มากหรอก แต่ก็โดน
"ข้าพเจ้ายอมตายเพื่อแม่นางหนิง
แต่ว่ามีชีวิตอยู่เพื่อท่านคนเดียว"
มหานทีกับภูผา เทียบกันยากว่าภาคไหนดีกว่า มันมีจุดเด่นจุดด้อยคนละแบบ สรุปง่ายๆ แล้วกันว่า ภาคมหานทีนี้อ่านสนุก แต่เรายังประเมินอารมณ์ตัวเองไม่ค่อยถูก คงชอบประมาณ 7 - 7.5 นี่แหละ คะแนนอาจดูเหมือนถูกกด เพราะเราอดเอาไปเปรียบเทียบกับงานของกิมย้งไม่ได้ ซึ่งก็รู้ว่ามันไม่ยุติธรรม แต่ทำไงได้ เฟิ่งเกอบอกเองว่า เขาได้รับอิทธิพลจากกิมย้งสูง อ่านแล้วก็ทำให้อดเทียบไม่ได้ ยังไงก็รู้สึกว่ามันก็ยังขึ้นไม่ถึงชั้นยอดนิยายกำลังภายในอยู่ดี มีคนเขียนในเว็บบอร์ดว่า เฟิ่งเกอเคยให้สัมภาษณ์ว่า เขาอยากสร้างผลงานที่มี impact ดุจเดียวกับ Lord of The Rings ให้วงการวรรณกรรมจีน เป็นปณิธานที่ยิ่งใหญ่นะ แต่ถ้าดูจากผลงานตอนนี้ ก็ยังห่างเป้าหมายไกลโข แต่ยังไงก็ให้กำลังใจ เฟิ่งเกอยังมีเส้นทางอีกยาวไกล นี่ยังเป็นผลงานชิ้นแรกๆ ลีลาเขียนนี่ดีแล้ว จินตนาการก็ได้ น่าจะพัฒนาได้เต็มที่กว่านี้ในอนาคต ก็จะรอดูผลงานต่อไปแล้วกัน
ป.ล. พอมาดูรูปปกเรียงกัน เพิ่งสังเกตว่า ปกเล่ม 7-8 นี่มันเอาปก 1-4 มาผสมกันนี่นา ฮ่าฮ่า เพราะฉบับภาษาจีนมี 6 เล่ม พอฉบับไทยมากระจายเป็น 8 เล่ม เลยต้องทำอย่างนี้
2 ความคิดเห็น:
y.y
TT
แสดงความคิดเห็น