นิยายทวิภาคแฟนตาซีนี้เป็นชุดที่ 6 ในโลกแห่งแชนนาร่า แต่ใน Legends of Shannara มีเล่มน้อยกว่าชุดอื่นๆ แค่สองเล่มจบ ถ้าบวกไตรภาค Word & Void ด้วย นี่เป็นเล่มที่ 21-22 ในซีรีส์แล้ว
เริ่มต้นที่ Bearers of the Black Staff จับใจความหลังจากเหตุการณ์ล้างโลกใน The Genesis of Shannara นับจากที่ฮอว์คช่วยนำกลุ่มคนมาหาที่หลบภัยในหุบเขา เพื่อปกป้องอนาคตของมนุษย์ ให้รอดจากการไล่ล่าของเหล่าปิศาจ และหายนภัยนิวเคลียร์ เวลาผ่านไป 500 ปี ชื่อฮอว์คเหลือเป็นแค่ตำนาน แถมชื่อโดนเอาไปแอบอ้างเป็นลัทธิซะอีก บัดนี้ กำแพงเวทมนตร์ได้พังทลายลงแล้ว ลูกหลานของมนุษย์ และเผ่าเอลฟ์ที่เหลืออยู่ ต้องเผชิญกับอันตรายจากโลกภายนอก
ตำนานแชนนาร่าบทนี้ ก็จะเชื่อมโยงต่อจากไตรภาค Genesis แล้วนำไปสู่โลกของแชนนาร่าดั้งเดิม บรรยากาศและสิ่งแวดล้อมในเรื่องเริ่มใกล้เคียงกับของเดิมมากขึ้น จาก Knight of the Word ก็คงจะมีพัฒนาการต่อไป อนาคตก็จะกลายเป็น Druid ที่เราคุ้นล่ะ โดยส่งผ่านสัญลักษณ์กันด้วยไม้เท้านิล ตัวละครเด่นภาคนี้เป็นเด็กหนุ่มชื่อ แพนเทอร่า มีคู่หูเป็นหญิงชื่อ พรู กับเจ้าหญิงเอลฟ์ชื่อไฟรน์ โดยมีผู้ถือไม้เท้านิลคนปัจจุบันชื่อ ไซเดอร์ เป็นคนคอยให้คำแนะนำแก่แพน
ภาคนี้มันสนุกเป็นช่วงๆ ตอนต้นเล่มเปิดเรื่องดีมาก เพราะ Terry Brooks เป็นคนที่เขียนฉากแอกชั่นสนุก และการทิ้งจังหวะการเล่าเรื่องทำได้ดีมีให้ลุ้น แต่มันสร้างความน่าสนใจได้ไม่ตลอด เพราะเหตุการณ์ในเรื่องจริงๆ มีไม่เยอะเท่าไหร่ เส้นเรื่องไม่เนียน ศัตรูในเรื่องยังถือว่าน้อย และไม่ได้จี้ติดฝั่งตัวเอกในเรื่องซะเท่าไหร่ พวกชาวบ้านในเรื่องไม่ค่อยเครียดกันเลย กองทัพศัตรูมาจ่อแล้ว เฉยกันจัง และเดิมพันในเรื่องไม่สูงระดับชี้ชะตามนุษยชาติอย่างภาคอื่นๆ ก็เลยขาดอารมณ์ลุ้นๆ เร่งๆ ไป พอเชื่อมโยงต่อมาถึงเล่มสอง The Measure of the Magic ก็ประมาณกัน เรื่องราวเน้นมาที่ไอเทมสำคัญประจำซีรีส์อย่างบลูเอลฟ์สโตนที่แฟนๆ คงคุ้นกันดี มีปิศาจมาร demon โผล่มาตัวหนึ่ง ตอนต้นเล่มลุ้นสนุกอยู่ แต่พอสักพัก จังหวะก็เอื่อยหายไปอีก มามันส์ตอนท้ายๆ อีกที
เรื่องความรักในภาคนี้ถูกกลบสนิทมิดชิด มีแบบเสียไม่ได้ยังไงไม่รู้ ภาคก่อนๆ เรื่องความรักของตัวเอกในเรื่องก็ไม่ได้สำคัญมากหรอก แต่ก็ยังมีบ้างเหมือนเป็นถ้วยรางวัลตอนจบ แต่ภาคนี้ไม่เวิร์กเลย เหล่าตัวละครแบนเป็นกระดาษแข็งมาก เลยไม่ทำให้เชียร์เท่าไหร่ แล้วเพราะความที่มันเป็นเหตุการณ์ก่อนหน้า ก็เหมือนรู้อยู่แล้วว่าอนาคตเนื้อเรื่องจะไปในทางไหน ก็เลยยิ่งไม่ลุ้น
รวมๆ แล้วภาคนี้เหมือนเป็นเกร็ดประวัติศาสตร์แทรกให้รู้เส้นเวลาของโลกแชนนาร่าดีขึ้นเฉยๆ ถ้าใครไม่เคยอ่านแชนนาร่า ก็ไม่ควรเริ่มที่ชุดนี้ ไปเริ่มที่ไตรภาคชุดก่อนๆ The Original Shannara, The Heritage of Shannara ที่สนุกมาก หรือ The Voyage of the Jerle Shannara ที่เคยมีแปลไทยดีกว่า แต่ไตรภาคหน้าที่จะออกต่อจากชุดนี้ เนื้อเรื่องจะจับใจความต่อจากชุด High Druid of Shannara อยากอ่านชุดนั้นมากกว่า ดูซิว่าอนาคตข้างหน้าของโลกในเรื่องจะไปยังไง ก็คงต้องรออีกสามปีให้ออกครบก่อนค่อยอ่านรวดเดียว