คะแนน : 7
นิยายเล่มที่สามในชุด Rarest Blooms เป็นเรื่องของเพื่อนสาวสี่คนที่พักอาศัยอยู่ด้วยกันในบ้านนอกเมือง อาศัยอยู่อย่างอิสระไม่พึ่งผู้ชาย ยังชีพด้วยการปลูกดอกไม้เอามาส่งขายในลอนดอน แต่ทั้งสี่คนมีความเป็นมาที่ไม่ยอมเปิดเผย และมีข้อตกลงกันว่า จะไม่ถามถึงอดีตของกันและกัน เราเคยเขียนถึงความรู้สึกหลังอ่านสองเล่มแรกไว้สั้นๆ ที่โพสต์นี้
เล่มนี้เป็นเรื่องของสาวคนที่สาม ซีเลีย ลูกสาวของหญิงงามเมืองชื่อดัง เมื่อโตเป็นสาวรุ่นแม่ก็พามาอยู่ด้วย และอบรมจะให้สืบทอดอาชีพต่อจากแม่ แต่แล้วเมื่อ 5 ปีก่อน เธอก็หนีออกจากบ้านมาพักพิงอยู่กับแดฟนีที่บ้านสวนดอกไม้เงียบๆ บัดนี้ เมื่อแม่ของเธอเสียชีวิต ความลับที่เธอเป็นลูกสาวโสเภณีก็ไม่ใช่ความลับอีกต่อไป ซีเลียได้มรดกที่เหลือจากการใช้หนี้เป็นบ้านหลังหนึ่ง เธอจึงตัดสินใจออกจากบ้านของแดฟนี เพื่อมายืนหยัดด้วยตัวเอง แต่เมื่อเธอย้ายเข้ามาอยู่ในบ้าน ก็พบว่า เธอรับมรดกตกทอดเป็นผู้เช่าบ้านหนุ่มหล่อ โจนาธาน อัลไบร์ทตัน มาด้วย โจนาธานเคยปรากฏตัวในเล่มสอง เป็นสายลับที่ทำงานให้รัฐบาลอังกฤษ
เราอ่านเล่มนี้จบไปด้วยอารมณ์ธรรมดามากๆ เรื่องนี้ก็ไม่แย่ แต่ไม่มีอะไรให้น่าชื่นชอบเป็นพิเศษเลย เรารู้สึกว่า นิยายโรแมนซ์ที่เป็นเรื่องชุด 3-4 เล่ม จะเจอปัญหานี้บ่อยๆ เล่มแรกมักจะดีเพราะเป็นเล่มเปิดเรื่อง เล่มกลางจะอ่อน เพราะต้องกั๊กนู่นกั๊กนี่ ตัวละครเด่นก็ต้องเก็บไว้ทีหลัง แล้วเล่มสุดท้ายค่อยกลับมาดีอีกที เล่มนี้ก็เป็นอย่างที่ว่า ซึ่งเราว่าปัญหาหลักของเล่มนี้อยู่ที่ตัวละคร
ซีเลียเป็นนางเอกที่ด้อยกว่าที่คิด ในเล่มก่อนๆ หน้าเวลากล่าวถึงเธอ เธอเป็นสาวสวยที่สุดในเรื่อง แต่ใครๆ ก็มักจะรู้สึกว่าเธอไม่ใช่สาวน้อยไร้เดียงสาธรรมดา เธอมักยิ้มเหมือนรู้ทันตลอด เหมือนมีความคิดกร้านโลก แต่เอาเข้าจริงในเล่มนี้ เราว่า เธอยังอ่อนต่อโลกมากๆ ในเรื่องบรรยายไว้หลายครั้งว่า แม่พยายามอบรมให้เธอคิดถึงความจริงของชีวิตและกฎเกณฑ์ของสังคม ซึ่งปากของเธอก็บอกว่า เธอรู้ดี ไม่ฝันอะไรเกินตัว แต่แล้วเธอก็พยายามตามหาพ่อที่แท้จริง จากบรรดาแขกของแม่เธอซึ่งเป็นขุนนางใหญ่ๆ ทั้งนั้น โดยฝันว่าเขาจะยินดีต้อนรับเธอ เพราะเธอไม่คิดอยากได้อะไรจากเขา แค่นี้เราก็ส่ายหน้าแล้วค่ะ ผู้ชายถ้ามันจะรับ มันคงไม่ปล่อยลูกไว้ในซ่องหรอก ไม่มีความคิดเลย แล้วก็จิตใจอ่อนแอไม่มีจุดยืน เพิ่งบอกเลิกกับพระเอกเพราะรู้ว่าเขาไม่ซื่อในเจตนาที่มาอยู่ในบ้าน พอไปเจอเรื่องเสียใจอื่น พระเอกปลอบหน่อย ก็ยอมรับเขากลับมาง่ายๆ
ตอนอ่านเล่มสองจบใหม่ๆ เราก็อยากอ่านเล่มสามซึ่งรู้แล้วว่าจะเป็นเรื่องของซีเลีย เคยนึกว่า ดยุคคาสเซิลฟอร์ดจะคู่กับซีเลีย เพราะเดาว่าเขาอาจจะเป็นคนที่ไปประมูลซีเลียมาเมื่อ 5 ปีก่อน จนเมื่อ Madeline Hunter เขียนลงเว็บของเธอว่า คาสเซิลฟอร์ดต้องเจอคนที่ปราบเขาอยู่ ไม่ใช่ซีเลีย เราก็ห่อเหี่ยวไปหน่อยที่เล่มนี้ยังไม่ใช่เล่มของเขา แต่อ่านจบแล้วก็เข้าใจทันที ซีเลียอ่อนมาก ไม่สมกับคาสเซิลฟอร์ดหรอก
ส่วนโจนาธานก็ห่วยพอกัน เขาเป็นลูกนอกสมรสของเอิร์ล ตอนสงครามกับนโปเลียน ก็ทำภารกิจลับให้รัฐบาลหลายอย่าง โจนาธานเข้ามาอยู่ในบ้าน เพื่อค้นหาว่า แม่นางเอกทิ้งรายชื่อแขกที่อาจจะเป็นคนระดับสูงของประเทศไว้รึเปล่า และพ่วงการสืบว่า ใครกันที่เป็นคนทรยศที่ทำลายภารกิจจนเขาเกือบตายเมื่อ 5 ปีก่อน เพราะมีข่าวลือว่า แม่นางเอกส่งข่าวให้ฝรั่งเศส จากภูมิหลังของเขา โจนาธานน่าจะเป็นคนที่น่าสนใจกว่านี้ได้ แต่เรากลับพบว่า เขาธรรมดามากๆ เราเห็นเขาเป็นแค่ตัวประกอบในตอนเล่มสอง ในเล่มนี้ที่เขาเป็นพระเอกเอง ก็ยังไม่สามารถดึงความสนใจเรามาอยู่กับเขาได้
เวลาที่บรรดาหนุ่มๆ แก๊งสี่คน มาอยู่รวมกัน แน่นอน คาสเซิลฟอร์ดขโมยซีน แต่พระเอกเล่มหนึ่ง ลอร์ดเซบาสเตียน กับพระเอกเล่มสอง ฮอว์คสเวล เอิร์ลหนุ่มเลือดร้อน ยังยันบุคลิกตัวเองไว้ให้เรารู้สึกว่ามีราศีพระเอกอยู่ได้เลย แต่โจนาธานไม่มีอะไรเลย เขาน่าจะเก่งใช่มั้ย แต่ในเรื่องไม่แสดงฝีมือเลย ไม่มีไหวพริบ ไม่ฉลาด เป็นสายลับที่ไม่รู้ทันคนแบบนี้ รอดมาได้ยังไงก็ไม่รู้ และเราไม่เข้าใจซีเลียกับโจนาธาน เรื่องที่ให้ความสำคัญกับชาติกำเนิดของตัวเองจัง โจนาธานก็พยายามอยู่นั่นที่จะให้วงศ์ตระกูลยอมรับ ไม่รู้ไปแคร์อะไรนักหนากับญาติพี่น้องที่เขาไม่ต้องการตัว ถึงโชคร้ายเกิดมาไม่พร้อม แต่ชีวิตเราก็สร้างเองได้นี่
บ่นเยอะไปหน่อย แต่จริงๆ เรื่องนี้ไม่แย่นะคะ อ่านได้เรื่อยๆ ถึงแม้จะไม่ประทับใจนัก ถือว่าอ่านคั่นเวลารอเล่มสุดท้าย แต่ก็หวังว่า มันจะเป็นเพราะผู้แต่งเก็บสิ่งดีๆ ไว้ เพื่อเอาไปปล่อยให้สุดๆ ในเล่มหน้า เรื่องของดยุคหนุ่มจอมแสบ กับม่ายสาวเจ้าของบ้านสวนดอกไม้ อยากอ่านมากๆ เออ ว่าแต่ เพื่อนหนุ่มสี่คนที่อยู่แก๊งเดียวกันสมัยเรียน จับคู่กับสี่สาวที่เคยอยู่บ้านเดียวกัน ถ้าพิจารณาจากความน่าจะเป็น มันไม่น่าบังเอิญได้ขนาดนั้นเลยนะเนี่ย 555 โลกในเรื่องนี้แคบจัง
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น