คะแนน : 8
นี่เป็นเรื่องสุดท้ายในชุดเบญจภาค Huxtable Series เรื่องราวของครอบครัวฮักซ์เทเบิล ที่ประกอบไปด้วยพี่น้อง 3 สาว และน้องชายคนเล็ก ที่จู่ๆ ก็ได้สืบทอดบรรดาศักดิ์เอิร์ลโดยไม่คาดฝัน กับลูกพี่ลูกน้อง(ชั้นที่สอง)ของพวกเขา ก่อนจะพูดถึงเล่มนี้ ขอย้อนกลับไปกล่าวถึงความรู้สึกที่มีต่อ 4 เล่มก่อนนี้สั้นๆ
First Comes Marriage (คะแนน 7.5) เล่มแรกของซีรีส์ เป็นการเปิดตัวเรื่องราว และแนะนำตัวละครหลักในชุด เรื่องของวาเนสซ่า พี่สาวคนกลาง กับ เอลเลียต ผู้ปกครองของท่านเอิร์ลคนใหม่ เราเริ่มอ่านเล่มนี้เมื่อปีที่แล้ว ตอนที่มีหนังสือในชุดนี้ออกมา 3 เล่มแล้ว ก่อนอ่านเราดูพล็อตเรื่องทั้ง 3 เล่ม เราคิดว่า เราน่าจะชอบเล่มนี้น้อยที่สุด เพราะนางเอกเป็นแม่ม่าย แล้วเนื้อเรื่องดูเรียบที่สุด แต่ปรากฏว่า เราชอบเล่มนี้ที่สุดในบรรดาเรื่องของเฉพาะพี่น้องฮักซ์เทเบิล เนื้อเรื่องอาจจะไม่ซับซ้อน เรื่องราวของการแต่งงานเพื่อความสะดวก แต่ด้วยส่วนผสมด้านตัวละครที่ลงตัว ก็ช่วยให้อ่านเรื่องราวความรักของทั้งคู่ได้น่าติดตาม
Then Comes Seduction (คะแนน 6) เรื่องของแคทเธอรีน น้องสาวคนเล็ก กับ แจสเปอร์ หนุ่มเสเพล ที่พนันกับเพื่อนว่าจะล่าพรหมจรรย์เคทให้ได้ในสองสัปดาห์ ไม่ชอบเลยนะคะ นางเอก สวย ใส ไร้สมอง พระเอก งี่เง่า ไร้สำนึก อาจจะแรงไปนะคะ จริงๆ คู่นี้มีอะไรมากกว่านั้นแหละ หลังจากดำเนินเรื่องไป แต่เราไม่เคยหลุดพ้นจากความรู้สึกแรกที่เราคิดกับพระ-นางคู่นี้ได้เลย
At Last Comes Love (คะแนน 7) เรื่องของพี่สาวคนโต มาร์กาเร็ต กับ ดันแคน ท่านเอิร์ลผู้อื้อฉาว เพราะเคยพาผู้หญิงที่มีสามีแล้วหนีตามกันไป เรื่องราวอาจคล้ายกับเล่มแรก ตรงที่ทั้งสองแต่งงานเพื่อแก้ปัญหาให้กันและกัน แล้วก็มาเรียนรู้ตัวตนของกันและกัน มีเนื้อเรื่องเพิ่มตรงที่ต้องร่วมกันแก้ปัญหาจากอดีตของพระเอก เราชอบพระเอกนะ แต่เสียความรู้สึกกับนางเอกนิดหนึ่งเรื่องความหลังของเธอ อาจจะเพราะก่อนอ่านเราคาดหวังจากเม็กไว้มากที่สุด
Seducing an Angel เรื่องของสตีเฟน น้องชายคนสุดท้อง กับ คัสซานดร้า เลดี้แม่ม่ายที่มีข่าวลือว่าเป็นคนฆ่าอดีตสามีตาย เธอเสนอตัวเป็นภรรยาเก็บให้สตีเฟน เพื่อจะได้มีเงินเลี้ยงดูบริวาร เพื่อความยุติธรรมเราไม่ได้ให้คะแนนเรื่องนี้ เพราะเราไม่ได้อ่านจริงๆ แค่เปิดแบบผ่านๆ พอให้รู้เนื้อเรื่องเท่านั้น เพราะเราไม่ชอบเนื้อเรื่องเล่มนี้เลย และรู้สึกแย่มากๆ กับนางเอก จริงๆ เราไม่ได้มีปัญหากับอดีตและตัวตนของนางเอกมากเท่าไหร่นะคะ เราเห็นใจที่เธอต้องเคยพบประสบการณ์เลวร้ายจากสามี แต่ปัญหาคือ เราคิดว่า สองคนนี้เป็นคู่ที่ไม่เหมาะสมกันเลยแม้แต่น้อย ความสัมพันธ์ของทั้งคู่ เน้นที่การแก้ปัญหาให้ฝ่ายหญิงอย่างเดียว เพราะสตีเฟนช่างเป็นเทพบุตร หล่อเหลา ร่ำรวย มีบรรดาศักดิ์ นิสัยดี ครอบครัวรัก เราไม่ทราบว่าสตีเฟนมาลงเอยกับผู้หญิงคนนี้ทำไม ถึงไม่ใช่คัสซานดร้า สตีเฟนก็สามารถมีคนอื่นที่เขาจะรักได้ เราไม่รู้สึกว่าเธอเป็น The One สำหรับเขา แต่เหมือนพ่อพระมาทำการกุศล ความสัมพันธ์ที่ไม่สมดุล ทำให้เราไม่รู้สึกถึงความเหมาะสมกันเลยของคู่นี้
และปัญหาเรื่องความเหมาะสมของนางเอก ก็เป็นสิ่งที่ทำให้เราหวั่นใจมาตลอด ในระหว่างการรอคอยนิยายเล่มสุดท้ายในชุด ซึ่งจะเป็นเรื่องของคอนสแตนติน ฮักซ์เทเบิล พี่ชายของเอิร์ลแห่งเมอร์ตันคนก่อน เขาควรจะได้สืบทอดตำแหน่งเอิร์ลมากกว่าสตีเฟน เปล่า เขาไม่ใช่ลูกเมียเก็บ แต่พ่อกับแม่ของเขาแต่งงานกันหลังจากที่เขาเกิดแล้ว 2 วัน ทำให้เขาหมดสิทธิ์ในการสืบทอดไปโดยปริยาย คอนสแตนตินปรากฏตัวตั้งแต่เล่มแรก อันที่จริง เป็นตัวละครคนแรกของเรื่องด้วยซ้ำ ฉากเปิดเรื่องในนิยายชุดนี้ เป็นฉากที่คอนยืนอยู่ที่หลุมศพน้องชายของเขา เราชอบคอนตั้งแต่แรก และก็ลุ้นมาตลอดว่าเรื่องราวของเขาจะเป็นยังไง บทบาทของคอนก็น่าสนใจมาตลอด คอนมีความซับซ้อน เขาเป็นมิตรกับพี่น้องฮักซ์เทเบิลที่เป็นญาติห่างๆ ทั้งๆ ที่เขาน่าจะเกลียดสตีเฟนที่มาแย่งตำแหน่งที่ควรเป็นของเขา เขามีปัญหาการไม่ลงรอยกับเอลเลียต ที่กล่าวหาว่า เขายักยอกทรัพย์สินของน้องชายผู้พิการทางสมองของตัวเอง และเขาเคยทำร้ายความรู้สึกวาเนสซ่าเพราะตั้งใจแก้เผ็ดเอลเลียต เขาเคยเป็นเพื่อนร่วมแก๊งสำมะเลเทเมากับแจสเปอร์ แต่เขาก็ปกป้องเคท
อันที่จริงตั้งแต่อ่านเล่มแรกจบ เราก็ไม่ค่อยแคร์เล่มตรงกลางเท่าไหร่เลยด้วยซ้ำ ใจรอแต่เรื่องของคอนอย่างเดียว แต่ก็หวั่นๆ ในใจว่า ผู้หญิงแบบไหนจะมาเป็นนางเอกของคอน และโชคดีมากๆ ที่ A Secret Affair ไม่ทำให้การรอคอยของเราสูญเปล่าเลย ผู้แต่ง Mary Balogh มอบนางเอกที่คู่ควรเหมาะสมที่สุดให้แก่คอนสแตนติน เธอคือ ฮันน่าห์ ดัชเชสแห่งดันบาร์ตัน
นางเอกของเราเป็นม่าย และเพิ่งออกจากการไว้ทุกข์ให้สามี ฮันน่าห์ สาวสวยที่ไม่มีใครรู้จักจากชนบท วัย 19 แต่งงานกับดยุควัย 70 กว่า หลังจากรู้จักกันได้ 5 วัน และได้ยกระดับตัวเองมาใช้ชีวิตหรูหราร่ำรวยในฐานะดัชเชส พร้อมข่าวลือว่า เธอมีชู้รักนับไม่ถ้วน ตลอดระยะเวลาการแต่งงานที่ยาวนานนับสิบปี เพราะท่านดยุคมีอายุยืนกว่าที่ใครๆ รวมทั้งตัวเธอเองคาดคิด แต่ในที่สุด ฮันน่าห์ก็ได้รับอิสรภาพที่จะใช้ชีวิตตามใจตัวเองในที่สุด ขณะนี้ ในวัย 30 ปี เธอยังคงความงาม อาจจะสวยยิ่งกว่าก่อน เธอร่ำรวย เป็นอิสระ ไม่ต้องพึ่งพาใคร ไร้พันธะ และเธอตัดสินใจว่า เธอจะเลือกคอนสแตนติน ฮักซ์เทเบิล เป็นชู้รักคนใหม่สำหรับฤดูกาลนี้
เพราะคอนเป็นผู้ชายที่มีหลายมิติและซับซ้อน และมีเปลือกนอกหลายชั้นกว่าจะเข้าถึงใจกลางตัวตนที่แท้จริง ผู้หญิงที่จะมารับมือกับคอนได้ดี ก็ย่อมต้องเป็นคนที่เข้าใจความซับซ้อนนั้น โดยเฉพาะอย่างยิ่ง เมื่อเธอก็เป็นผู้ที่มีเปลือกนอกหลายชั้นเช่นกัน ดัชเชส (เป็นชื่อที่คอนใช้เรียกเธอเกือบตลอดเรื่อง) สามารถจับความสนใจของเราได้ตั้งแต่ปรากฏตัว และรู้สึกทันทีว่า นี่แหละใช่ คนที่เหมาะกับคอน
สัมพันธ์สวาทระหว่างทั้งคู่เกิดขึ้นเร็วตั้งแต่ต้นเรื่อง การหาความสุขทางกายที่ไม่มีข้อผูกมัดใดๆ ทางใจ แต่นั่นก็เป็นแค่เปลือกนอก แล้วเราก็ค่อยๆ ได้เรียนรู้ตัวตนด้านในของทั้งคู่เรื่อยๆ เมื่อทั้งสองค่อยๆ ทำความรู้จักกัน บทสนทนาระหว่างกันก็น่าติดตามตลอด ทั้งสองทันกัน ฮันน่าห์กับคอน เป็นคนฉลาด เจ๋ง โดดเด่นทั้งคู่ เข้มแข็ง และยืนหยัดด้วยตนเองได้ แต่ก็มีความกลัว สับสน ทิฐิ ความดี ความรัก ความเกลียด เหมือนคนทั่วไป จะว่าไป ตัวตนข้างในที่มีความเป็นคนธรรมดากว่าที่คิดนี่แหละ ที่ทำให้เราชอบตัวเอกมากขึ้น พอรู้จักกันถึงจุดหนึ่ง ทั้งคู่ก็ยอมรับความรักที่เกิดขึ้น แม้จะระแวงเรื่องความรักบ้าง จากประสบการณ์ในอดีต ในฐานะที่ความรักเป็นจุดอ่อนในหัวใจที่ทำร้ายตัวเองได้ง่ายๆ โชคดีที่ทั้งสองไม่มีอดีตเลวร้ายฝังลึก ที่ทำให้ต้องปฏิเสธความรักในปัจจุบัน
ในด้านเนื้อเรื่องอาจไม่มีอะไรมาก แทบไม่มีเหตุการณ์อะไรเกิดขึ้นเลย คนที่ไม่ชอบแนวนี้อาจจะเบื่อได้ ไม่ได้มีเรื่องเข้าใจผิด ไม่มีการทะเลาะแยกทางกัน มีแค่ไปงานเลี้ยง คุยกัน ไปเดินเล่น คุยกัน ลอบไปพบกันกลางดึก แล้วก็คุยกัน เพราะเรื่องของ MB เป็นเรื่องสไตล์ที่ขับเคลื่อนด้วยตัวละครเป็นหลักอยู่แล้ว ก็ไม่ค่อยมีเนื้อเรื่อง แต่เมื่อเราได้ตัวละครน่าสนใจ แค่เราค่อยๆ ได้รู้จักตัวละคร เรื่องมันก็เวิร์กมากๆ แล้ว จนกลายเป็นว่า ช่วงที่ดำเนินเรื่องไปจนถึงการเกิดวิกฤติ มีแอคชั่นขึ้นมาให้พระเอกนางเอกต้องแยกกันไปแก้สถานการณ์ เรากลับเบื่อเรื่องราวช่วงนั้นแฮะ เพราะมันไม่มีส่วนในการพัฒนาความสัมพันธ์ของตัวละคร อยากให้ทั้งสองคนกลับมาเจอกันเร็วๆ แล้วก็คุยกันต่อ อ้อ แต่ขออวดหน่อยหนึ่งว่า เราเดาเนื้อความในราชสาส์นฉบับที่สองได้ทันที เพราะคาดไว้ตั้งแต่กลางเรื่องแล้วล่ะ
ช่วงท้ายหลังไปแก้เหตุฉุกเฉินเสร็จ เนื้อเรื่องก็ไม่มีจุดไคลแม็กซ์อะไรอีก เป็นแค่ช่วงการขอแต่งงาน คอนน่ารักผิดคาดมาก ต้องอมยิ้มเลย การเตรียมงานแต่ง ที่ค่อนข้างเยิ่นเย้อยืดยาว แต่มันเหมือนเป็นช่วงโบนัสให้คนอ่าน ได้เห็นตัวละครทั้งชุดรวมตัวกัน มีเด็กๆ ลูกหลาน ครอบครัวคืนดีกัน ได้เห็นความสุขที่เกิดขึ้นนานๆ หลายบท เพราะทั้งสองสมควรจะได้รับมันจริงๆ แต่ความจริงเรารำคาญตัวละครจากเล่มก่อนๆ นะคะ เพราะไม่ได้ชอบมาตั้งแต่แรก แล้วเล่มนี้เราก็ไม่ปลื้มพวกพี่น้องฮักซ์เทเบิล ที่ปฏิเสธดัชเชสตอนแรก อย่างที่คอนพูดในเรื่อง พี่น้องแต่ละคนเลือกคู่ที่ชื่อเสียงอื้อฉาวแย่กว่าดัชเชสตั้งเยอะ มาเกี่ยงงอนอะไรกับนางเอกเล่มนี้ก็ไม่ทราบ แต่อย่างว่า ทั้งฮันน่าห์กับคอนสมควรได้รับความสุขเต็มที่ ถ้าครอบครัวญาติมิตรฮักซ์เทเบิลเป็นส่วนหนึ่งในความสุขนั้น นักอ่านอย่างเราก็ต้องยอมรับเห็นดีเห็นงามด้วย เป็นการจบซีรีส์ที่สวยงามนะคะ 8 คะแนน
ป.ล. แต่ถ้าใครที่ยังไม่เคยอ่านงานของ MB ขอแนะนำว่า อย่าเพิ่งเริ่มอ่านจากชุดนี้ ไปเริ่มที่ชุด Slightly พี่น้องเบดวิน จะดีกว่านี้ค่ะ หรือย้อนไปหางานเก่า ชุด Dark Angel เป็นชุดที่เราชอบที่สุด
3 ความคิดเห็น:
คิดเหมือนกันเลยค่ะ ชุดนี้ไม่ใช่ชุดที่ดีที่สุดของ MB และคอนขโมยซีนทุกฉากที่ออกมา เล่ม 2 นี่ทำเราเหม็นเบื่ออย่างแรง ถึงขั้นต้องพลิกกลับไปดูหน้าปกอีกทีให้แน่ใจว่านี่ MB นักเขียนคนโปรดจริงๆรึเปล่า เล่ม 4 นี่เรายอมอ่านนะคะ เพราะทำให้นึกถึงเรื่องที่เราชอบมากที่สุดของ MB เล่มหนึ่ง คือ Irresistible แต่ผลปรากฏว่าเทียบไม่ติดฝุ่นเลย
Irresistible นี่อยู่ชุดเดียวกับ Indiscreet เปล่าคะ นึกเรื่องนี้ไม่ออก ไม่แน่ใจว่าอ่านรึยัง เดี๋ยวจะลองไปค้นดูค่ะ
ใช่ค่ะ ในชุดนี้มี Indiscreet Unforgiven แล้วก็ Irresistible
แสดงความคิดเห็น