เนื้อหาต่อไปนี้ เจ้าของบล็อกอนุญาตให้เฉพาะผู้ที่มีอายุ 25 ปีขึ้นไปอ่านเท่านั้น
การคลิกปุ่มด้านล่าง ถือเป็นการตกลงยืนยันตนเองว่า ผู้อ่านมีอายุครบ 25 ปีบริบูรณ์แล้ว
(โกหกนั้นตายตกนรกนะ)
การคลิกปุ่มด้านล่าง ถือเป็นการตกลงยืนยันตนเองว่า ผู้อ่านมีอายุครบ 25 ปีบริบูรณ์แล้ว
(โกหกนั้นตายตกนรกนะ)
ทนกระแสไม่ไหว เห็นเรื่องนี้มาสักพักแล้ว แต่ไม่ค่อยสนใจ นิยายอีโรติกที่มีต้นกำเนิดมาจากแฟนฟิคของ Twilight และมีฉายาว่าเป็น mommy porn เนี่ยนะ ไม่เห็นจะน่าอ่านเลย แต่มันก็ขึ้นอันดับเบสต์เซลเลอร์ 1-2-3 อยู่ตอนนี้ เลยยอมแพ้ความอยากรู้อยากเห็น มันยังไงกันเหรอที่ว่า นี่คือเรื่องที่ทำให้การอ่านนิยายอีโรติกกลายเป็นความเท่ ไม่ต้องหลบๆ ซ่อนๆ อ่าน
มีเรื่องหนึ่งที่พูดลำบาก เพราะพูดแล้วมันเหมือนปากว่าตาขยิบ แต่ความจริงคือว่า เราไม่ได้ชอบอ่านฉากเลิฟซีนในนิยายโรแมนซ์ ไม่ใช่ว่าศีลธรรมจัดหรืออะไร ถ้ามีก็อ่านได้ แต่ถ้าเยอะมากก็อ่านข้าม และจะไม่มีปัญหาอะไรทั้งสิ้นถ้าในนิยายโรแมนซ์ไม่มีฉากรักเลย เราเคยข้ามขั้นไปอ่านนิยายอีโรติกเรื่องเดียว และก็คิดว่าไม่ใช่แนว ไม่เคยอยากอ่านอีกเลยจนมาเรื่องนี้แหละ
อ่านแบบไม่นึกถึงศีลธรรมจริยธรรมนะ ว่ากันแต่เนื้อหาของเรื่อง อนาสตาเชีย สตีล กำลังจะจบการศึกษาจากมหาวิทยาลัย ไปสัมภาษณ์มหาเศรษฐีหนุ่ม คริสเตียน เกรย์ และถูกดึงเข้าสู่วังวนสีเทาของความปรารถนาที่ซ่อนเร้น แล้วถ้าเธอต้องการมากกว่าความใคร่ ความรักกับชายหนุ่มที่เต็มไปด้วยด้านมืดผู้นี้จะเป็นไปได้หรือเปล่า
เพราะรู้อยู่แล้วว่าต้นตอมันมาจาก Twilight อ่านช่วงแรกๆ เชื่อเลยว่านางเอกเรื่องนี้คือเบลล่า 100% เป็นร่างโคลนมาเลย สาวสวยที่ไม่มั่นใจในตัวเอง ซุ่มซ่าม กัดริมฝีปาก ครั้งแรกตอนอ่านเจอบุคลิกพวกนี้ทำเราหลุดหัวเราะก๊ากไป 3 ที เหมือนอ่าน parody เลย แต่ว่าดีกรีความหื่นของยัยอนาถูกขยายกำลังขับมากกว่าเยอะ แค่มองพระเอกก็คิดไปถึงไหนต่อไหน แต่ก็แค่ไม่กี่บทแรกๆ เท่านั้นแหละที่จะนึกถึง Twilight เพราะไม่ทันไร ก็เปิดฉากความเป็นอีโรติก้า โจ่งแจ้งมาก และมันไม่ใช่เซ็กส์ธรรมดาแต่เป็นแบบ BDSM ซะด้วย มีมัด มีฟาด มีเฆี่ยน
แต่สาบานว่า ตอนอ่านนิยายเรื่องนี้เราเผลอหัวเราะบ่อยมาก ไม่ใช่ว่าตลก แต่แบบรู้สึกว่าอะไรของมันวะ บ้าๆ ดี พระเอกขอให้นางเอกเป็นทาสสวาท มีสัญญาเขียนเป็นลายลักษณ์อักษรด้วย ข้อความในสัญญาคือเนื้อหา 1 บทเลย แล้วอีเมล์ที่พระเอกนางเอกโต้ตอบกันก็เพี้ยนๆ ฮาๆ อีตอนที่นับกันว่าซั่มไปกี่ครั้งแล้ว พรืดเลย หัวเราะแล้วก็แอบมองรอบๆ ตัว วันนี้เรานั่งอ่านเรื่องนี้ตอนรอกินข้าวในร้านอาหารคนเยอะแยะ ยังนึกตลกอยู่ในใจเลยว่า Kindle นี้มันก็ดีนะ คงไม่มีใครรู้ว่าที่นั่งอ่านไปขำไปอยู่นี่มันนิยายอีโรติก
ตอนกลางๆ เรื่องเราคิดอย่างเดียวว่า เดี๋ยวมันต้องมีอะไรมากกว่านี้สิน่า ถ้ามีแต่แบบนี้หมดมันจะขายดีขนาดนี้ได้ไง พระเอกอาจจะไม่ใช่คนธรรมดามีแฟนตาซีพลังพิเศษอะไรเข้ามาในเรื่อง แต่จนจบเรื่อง ก็ไม่มีอะไรเหนือธรรมชาติทั้งสิ้น เป็นเรื่องของพระเอกนางเอกสองคนแค่นี้ล่ะ พระเอกมีรสนิยมทางเพศผิดปกติเพราะอดีต ถ้าไม่นับเซ็กส์วิตถาร ที่จริงมันก็เป็นเรื่องรักนะ มีการพัฒนาความสัมพันธ์ทางใจด้้วย แต่ถ้าตัดเรื่องเซ็กส์ออกหมด มันก็จะไม่ใช่นิยายเรื่องนี้เลย ความสัมพันธ์ของทั้งคู่เป็นรักปนเซ็กส์พิสดารที่แยกสองสิ่งนี้จากกันไม่ออก
นิยายที่อ่านแล้วรู้สึกว่าไม่สามารถตัดอะไรออกโดยไม่ทำให้เรื่องเปลี่ยนได้ ก็คงต้องชมว่าแต่งดีแล้วมั้งนะ แต่อ่านจบแล้วก็ยังไม่เข้าใจอยู่ดีว่า มันขึ้นถึงเบสต์เซลเลอร์อันดับหนึ่งได้ยังไง เป็นที่กระแสและบริบททางสังคมอะไรที่เราไม่รู้รึเปล่าที่ทำให้มันดัง ไม่ใช่แค่เพราะตัวนิยายเอง
มีเรื่องหนึ่งที่พูดลำบาก เพราะพูดแล้วมันเหมือนปากว่าตาขยิบ แต่ความจริงคือว่า เราไม่ได้ชอบอ่านฉากเลิฟซีนในนิยายโรแมนซ์ ไม่ใช่ว่าศีลธรรมจัดหรืออะไร ถ้ามีก็อ่านได้ แต่ถ้าเยอะมากก็อ่านข้าม และจะไม่มีปัญหาอะไรทั้งสิ้นถ้าในนิยายโรแมนซ์ไม่มีฉากรักเลย เราเคยข้ามขั้นไปอ่านนิยายอีโรติกเรื่องเดียว และก็คิดว่าไม่ใช่แนว ไม่เคยอยากอ่านอีกเลยจนมาเรื่องนี้แหละ
อ่านแบบไม่นึกถึงศีลธรรมจริยธรรมนะ ว่ากันแต่เนื้อหาของเรื่อง อนาสตาเชีย สตีล กำลังจะจบการศึกษาจากมหาวิทยาลัย ไปสัมภาษณ์มหาเศรษฐีหนุ่ม คริสเตียน เกรย์ และถูกดึงเข้าสู่วังวนสีเทาของความปรารถนาที่ซ่อนเร้น แล้วถ้าเธอต้องการมากกว่าความใคร่ ความรักกับชายหนุ่มที่เต็มไปด้วยด้านมืดผู้นี้จะเป็นไปได้หรือเปล่า
เพราะรู้อยู่แล้วว่าต้นตอมันมาจาก Twilight อ่านช่วงแรกๆ เชื่อเลยว่านางเอกเรื่องนี้คือเบลล่า 100% เป็นร่างโคลนมาเลย สาวสวยที่ไม่มั่นใจในตัวเอง ซุ่มซ่าม กัดริมฝีปาก ครั้งแรกตอนอ่านเจอบุคลิกพวกนี้ทำเราหลุดหัวเราะก๊ากไป 3 ที เหมือนอ่าน parody เลย แต่ว่าดีกรีความหื่นของยัยอนาถูกขยายกำลังขับมากกว่าเยอะ แค่มองพระเอกก็คิดไปถึงไหนต่อไหน แต่ก็แค่ไม่กี่บทแรกๆ เท่านั้นแหละที่จะนึกถึง Twilight เพราะไม่ทันไร ก็เปิดฉากความเป็นอีโรติก้า โจ่งแจ้งมาก และมันไม่ใช่เซ็กส์ธรรมดาแต่เป็นแบบ BDSM ซะด้วย มีมัด มีฟาด มีเฆี่ยน
แต่สาบานว่า ตอนอ่านนิยายเรื่องนี้เราเผลอหัวเราะบ่อยมาก ไม่ใช่ว่าตลก แต่แบบรู้สึกว่าอะไรของมันวะ บ้าๆ ดี พระเอกขอให้นางเอกเป็นทาสสวาท มีสัญญาเขียนเป็นลายลักษณ์อักษรด้วย ข้อความในสัญญาคือเนื้อหา 1 บทเลย แล้วอีเมล์ที่พระเอกนางเอกโต้ตอบกันก็เพี้ยนๆ ฮาๆ อีตอนที่นับกันว่าซั่มไปกี่ครั้งแล้ว พรืดเลย หัวเราะแล้วก็แอบมองรอบๆ ตัว วันนี้เรานั่งอ่านเรื่องนี้ตอนรอกินข้าวในร้านอาหารคนเยอะแยะ ยังนึกตลกอยู่ในใจเลยว่า Kindle นี้มันก็ดีนะ คงไม่มีใครรู้ว่าที่นั่งอ่านไปขำไปอยู่นี่มันนิยายอีโรติก
ตอนกลางๆ เรื่องเราคิดอย่างเดียวว่า เดี๋ยวมันต้องมีอะไรมากกว่านี้สิน่า ถ้ามีแต่แบบนี้หมดมันจะขายดีขนาดนี้ได้ไง พระเอกอาจจะไม่ใช่คนธรรมดามีแฟนตาซีพลังพิเศษอะไรเข้ามาในเรื่อง แต่จนจบเรื่อง ก็ไม่มีอะไรเหนือธรรมชาติทั้งสิ้น เป็นเรื่องของพระเอกนางเอกสองคนแค่นี้ล่ะ พระเอกมีรสนิยมทางเพศผิดปกติเพราะอดีต ถ้าไม่นับเซ็กส์วิตถาร ที่จริงมันก็เป็นเรื่องรักนะ มีการพัฒนาความสัมพันธ์ทางใจด้้วย แต่ถ้าตัดเรื่องเซ็กส์ออกหมด มันก็จะไม่ใช่นิยายเรื่องนี้เลย ความสัมพันธ์ของทั้งคู่เป็นรักปนเซ็กส์พิสดารที่แยกสองสิ่งนี้จากกันไม่ออก
นิยายที่อ่านแล้วรู้สึกว่าไม่สามารถตัดอะไรออกโดยไม่ทำให้เรื่องเปลี่ยนได้ ก็คงต้องชมว่าแต่งดีแล้วมั้งนะ แต่อ่านจบแล้วก็ยังไม่เข้าใจอยู่ดีว่า มันขึ้นถึงเบสต์เซลเลอร์อันดับหนึ่งได้ยังไง เป็นที่กระแสและบริบททางสังคมอะไรที่เราไม่รู้รึเปล่าที่ทำให้มันดัง ไม่ใช่แค่เพราะตัวนิยายเอง
Update
อ่านที่เขียนต่อที่โพสต์นี้ค่ะ