นี่ไม่ใช่วิจารณ์ภาพยนตร์นะ เพราะเขียนแบบมีหลักการเชิงภาพยนตร์ไม่เป็น ขอให้คิดว่าเป็นเพียงความรู้สึกของแฟน Millennium Trilogy คนหนึ่ง หลังจากที่ไปชมหนังเรื่องนี้มาเท่านั้น แล้วเพราะว่าเราเป็นแฟนเต็มขั้นของเรื่องชุดนี้ ถ้าฟังแล้วรู้สึกว่าเว่อร์ไปหน่อยก็อย่าว่ากัน
เตือนสปอยล์
ขอเตือนว่า เนื้อหาต่อจากนี้จะมีการพูดถึงเนื้อเรื่องและฉากในภาพยนตร์อย่างอิสระ ตลอดตั้งแต่ต้นจนจบ ดังนั้น ผู้ที่ยังไม่ได้ดูภาพยนตร์เรื่องนี้โปรดหลีกเลี่ยง และเนื่องจากเราอ่านทั้งนิยาย กับเคยดูหนังฉบับสวีเดนมาแล้วด้วย ดังนั้นคงจะต้องมีเปรียบเทียบกันบ้าง จึงอาจมีสปอยล์เลยเถิดไปถึงพวกนั้นด้วย
สรุปในภาพรวมของหนังเวอร์ชันนี้ เรายกให้ฉบับของฮอลลีวู้ดชนะฉบับสวีเดนแบบใสๆ ถ้าเป็นฟุตบอลก็คงประมาณสกอร์ 3-1 เพราะดีกว่าเกือบทุกอย่าง ทั้งด้านภาพ การดำเนินเรื่อง และตัวนักแสดง ตอนนี้ก็คงต้องเอาใจช่วยเรื่องรายได้ของหนังกันหน่อย โซนี่ยืนยันแล้วว่าสร้างภาคต่อแน่นอน แต่เราอยากให้หนังประสบความสำเร็จเต็มที่ คงต้องไปอุดหนุนกันอีกสักรอบ เพราะอยากให้เดวิด ฟินเชอร์ มากำกับภาค 2-3 ต่อ อาจมีแฟนของฟินเชอร์บางคนที่ยังไม่พอใจ Dragon Tattoo แต่แฟน Dragon Tattoo อย่างเราโคตรพอใจฟินเชอร์เลยค่ะ หนังสวีเดนภาค Fire กับ Hornet นี่โปรดักชันไม่ค่อยดี เนื้อเรื่องก็ตัดไปเยอะมาก มีช่องให้พัฒนาได้อีกเยอะ รับรองว่า ฟินเชอร์จะทำได้เหนือกว่าขึ้นไปอีกแน่นอน
และอีกอย่างที่เราต้องขอบคุณ Dragon Tattoo เวอร์ชันนี้ก็คือ มันทำให้คนทั่วไปรู้จักไตรภาคมิลเลนเนียมเยอะขึ้นมาก เมื่อปีก่อนโน้นตอนไปดูที่ House เห็นมีคนดูนับหัวได้เราก็แอบเศร้า แต่นี่ขนาดรอบพิเศษตอนดึกก็ยังมีคนดูพอสมควร อยากให้เรื่องชุดนี้มีคนรู้จักกันในวงกว้าง ได้ความสนใจจากผู้คนในระดับคู่ควรกับที่นิยายเรื่องนี้สมควรได้รับ
ป.ล. รอบพิเศษนี่ซื้อตั๋วดูเองนะ
9 ความคิดเห็น:
Thanks for this post its really interesting i bookmark your blog for future stuff like this..
Ford Fairlane AC Compressor
สาเหตุหลักที่ไม่กล้าไปดูก็เพราะฉาก R18+ ที่บอกไว้ในสปอยนั่นแหละค่ะ อ่านหนังสือยังจะบ้าตาย อีกอย่างไม่ชอบพระเอกค่ะ แต่เห็นด้วยว่าลิสเบ็ธสุดยอด
หนังแรงมากจริงค่ะ กับแก๊งเื่พื่อนสนิทยังไม่กล้าชวนให้เขาไปดูเลย
ลิสเบ็ธในเล่ม 2 สุดยอดกว่านี้อีกนะคะ
ยังไม่ได้อ่านเล่ม 2 กะ 3 เลยค่ะ มันสนุกแต่ก็เครียด ต้องหาช่วงอารมณ์ดีๆแล้วจองเวลาไว้ ลิสเบ็ธคือสิ่งเดียวที่ทำให้เราอยากอ่านต่อค่ะสำหรับซีรี่ส์นี้
เล่ม 2-3 ไม่ค่อยมีฉากบีบคั้นเท่าไหร่แล้วล่ะค่ะ แต่พฤติกรรมสำส่อนของตัวละครนี่ก็ต้องทำใจเพราะมันเยอะมาก แต่รอว่างๆ ค่อยอ่านก็ได้ค่ะ เพราะอาจจะต้องอ่านต่อกัน
ลิสเบ็ธเป็นหัวใจของเรื่องชุดนี้จริงๆ เราว่า ถ้าไม่มีลิสเบ็ธ เรื่องนี้มันก็นิยายสืบสวนธรรมดานี่แหละค่ะ ตอนอ่านจบเล่ม 1 เรายังคิดว่า ทำไมอวยกันจัง พออ่านครบดันเป็นเอามากซะเอง คิดว่าแกนของเรื่องจะอยู่ที่เล่ม 2 น่ะค่ะ
เพิ่งดูมาเมื่ออาทิตย์ที่เเล้ว (เกือบไม่ได้ดู) ไม่ค่อยอินตรงตัวละครลิสเบ็ธในเรื่องที่พัฒนาจาก survivor-to-genius
คิดว่าถ้าเป็นการพัฒนาจาก victim-to-survivor คงจะน่าสนใจ น่าจะบีบหัวใจได้มากกว่านี้ ไม่รู้ในหนังสือหรือในหนังสวีเดนจะเเตกต่างกันหรือเปล่า
แต่อย่างว่าถ้าตัวละครหลักเป็นได้เเค่ survivor ก็คงไม่มีเเรงมากพอที่จะนำมาเป็น movie franchise ได้
ผมแฟนฟินเชอร์นะ ละไม่อยากให้แกทำภาคต่อๆไปเลย ดูๆเเล้วอย่างแย่ก็โดนสับเละ อย่างดีที่สุดก็แค่เสมอตัว ทั้งเนื้อเรื่องทั้งตัวละครมันน่าสนใจอยู่เเล้ว ให้คนอื่นทำก็ได้มั้งนะ
ดูมาเเล้ว สนุกมากจ้า
จริงๆ ในหนังฉบับใหม่นี่ค่อนข้างดำเนินเรื่องตามนิยาย แต่ก็คงยังเล่าความเป็นลิสเบ็ธได้ไม่หมด พวกเราพยายามจะนิยามตัวตนของเธอไปต่างๆ นานา แต่ถ้าในนิยาย ตัวลิสเบ็ธเองเธอจะไม่เคยคิดว่าตัวเองเป็นอะไร ไม่เคยให้คำจำกัดความแก่ตัวเองเลย เป็นตัวละครที่คาดเดายาก และคนอ่านตีความไม่เหมือนกันน่ะค่ะ แต่พอมาเป็นหนังก็ต้องให้น้ำหนักในการดำเนินเรื่องด้วย เวลาที่ให้กับ inner ของตัวละครก็อาจจะน้อยลง
เราไม่ใช่แฟนฟินเชอร์ค่ะ ก่อนนี้เคยดูงานเขาแค่ 2 เรื่องเอง ก็ชอบค่ะ แต่ไม่ได้ติดตาม แต่ดูท่าทีตอนนี้ สงสัยว่าฟินเชอร์ก็อาจจะไม่ได้กลับมาทำภาคต่อ เพราะข่าวเงียบไปเลย
ต้องบอกว่าเราพลาดมากที่เก็บไว้นานพึ่งจะได้มาดูวันนี้
จะบอกว่าคลั่งไคล้มากๆ จะไปหาซื้อหนังสือมาเก็บให้ครบเลย><
กะจะโหลดบิทภาค2มาดูแต่ไม่มีใครปล่อยเลย คงต้องโหลดเว็บนอกเอาT^T
เสียดายมากค่ะที่หนังสือออกมาเพียงเท่านี้
หากออกมาได้สิบเล่มจริงๆคงดี
แต่มันเป็นไปไม่ได้ :(
แสดงความคิดเห็น