วันพุธที่ 29 มิถุนายน พ.ศ. 2554

The Winter Sea - Susanna Kearsley

คะแนน : 7

แคโรลีน แมคเคลลแลนด์ นักเขียนนิยายอิงประวัติศาสตร์ กำลังแต่งนิยายเรื่องใหม่ของเธอ เป็นเรื่องราวของขบวนการจาโคไบท์ในช่วงปี ค.ศ. 1708 ที่ต้องการฟื้นฟูราชวงศ์สจวตให้กลับมาครองบัลลังก์ เพื่อหาข้อมูลและแรงบันดาลใจในการเขียนนิยาย เธอจึงมาเช่ากระท่อมเล็กๆ อยู่ใกล้ๆ กับซากปราสาทในสกอตแลนด์ที่เป็นฉากตามท้องเรื่อง แครี่ตั้งชื่อนางเอกของเรื่องตามชื่อบรรพบุรุษของเธอคนหนึ่ง คือ โซเฟีย แพเตอร์สัน และในระหว่างที่แต่งนิยาย ภาพและเรื่องราวของตัวละครในเรื่องก็แจ่มชัดในหัวของแครี่มากขึ้นทุกที แล้วเธอก็ได้รู้ว่า เรื่องราวและบทสนทนาในนิยายที่เธอเขียนขึ้นมา ตรงกับสิ่งที่เกิดขึ้นจริงในประวัติศาสตร์ทุกอย่าง

เล่มนี้เป็นนิยายรักอิงประวัติศาสตร์ที่จะว่าไปก็ถือว่าแต่งได้ดี สำนวนการเขียนของผู้แต่งสละสลวย การใช้ภาษาละเมียดละไม อย่างเช่น การเปรียบเปรยสีตาของตัวละครว่าราวกับสีของทะเลเหมันต์ ฉากและบรรยากาศถูกถ่ายทอดอย่างดี และอ่านดูก็รู้ว่า ผู้เขียนค้นคว้าข้อมูลเชิงประวัติศาสตร์มาเต็มที่ เหตุผลการระลึกอดีตได้ด้วยการถ่ายทอดความทรงจำผ่าน DNA ก็อธิบายได้ดีพอใช้เลย แต่โอ้ว่า อนิจจา สำหรับเรา มันเป็นนิยายที่น่าเบื่อมาก อ่านแล้วเกือบจะหลับ

ช่วงแรกของเล่มยังน่าสนใจอยู่ เรื่องเริ่มจากยุคปัจจุบัน และสลับกลับไปเล่าเรื่องราวในอดีต ผ่านนิยายที่นางเอกกำลังเขียน ในรูปแบบนิยายซ้อนนิยาย แล้วก็ตัดมาปัจจุบันกลับไปกลับมา จนในที่สุดเส้นแบ่งช่วงเวลาทั้งสองก็แทบจะเลือนลางหายไป ให้ผู้อ่านติดตามเรื่องไปพร้อมๆ กัน ถือว่าเป็นแนวคิดการนำเสนอที่ดีทีเดียว

แต่พอเซตฉากกับตัวละครทั้งสองยุคเสร็จแล้ว หลังจาก 1/4 ของเรื่องไป มันดำเนินเรื่องเนิบนาบมาก เราก็ไม่ได้คิดว่าในนิยายจะต้องมีแอกชั่นลุ้นตลอด หรือโรคจิตขนาดว่าต้องเห็นตัวละครตายทุกบทหรืออะไร แต่นิยายเรื่องนี้มันไปช้ามากๆ และแทบไม่ได้มีเรื่องราวอะไรเกิดขึ้นเท่าไหร่เลย มีแต่ฉากตัวละครสนทนาที่โต๊ะอาหารเรื่องแผนการทางการเมือง กับนางเอกไปเดินเล่นริมทะเล คิดถึงพระเอก ซ้ำๆ อย่างนี้ทั้งเรื่อง ที่ผ่านมานิยายบางเล่มที่เราชอบ มันก็มีแบบที่ไม่ค่อยมีเหตุการณ์ในเนื้อเรื่อง แต่มันก็จะดำเนินเรื่องด้วยการเดินทางทางความคิดของตัวละคร มีพัฒนาการและการเปลี่ยนแปลงทางจิตใจของพระเอกหรือนางเอก แต่เรื่องนี้ไม่ใช่แบบนั้นเลย

มีปัญหาสามข้อใหญ่ที่เป็นอุปสรรคต่อการอ่านเล่มนี้ ซึ่งก็อาจไม่ใช่ความผิดของนิยาย แต่มันเกิดจากสาเหตุส่วนตัวของเราเอง
1. เรื่องราวยุคอดีตของเรื่องนี้ นำมาจากเหตุการณ์จริงในประวัติศาสตร์ตอนที่เราไม่รู้จัก และคิดว่ามันไม่สำคัญ ไม่น่าสนใจ อย่าว่าแต่เราคนไทยเลย ขนาดตัวละครบางคนในเรื่องที่เป็นคนสกอตเอง ยังไม่รู้เรื่องเลย ต้องให้พระเอกนางเอกนั่งเลคเชอร์ให้ตัวละครในเรื่อง (และคนอ่าน) ฟัง ขนาดที่ในเรื่องยังบอกเองเลยว่า เรื่องตอนนี้มีค่าอยู่ในหนังสือประวัติศาสตร์แค่ประมาณสองบรรทัด

2. นางเอกกับพระเอกเรื่องนี้เป็นตัวละครคนดีที่แสนน่าเบื่อ ทั้งสองคู่ในสองยุคเลย เราคิดว่าถ้าพวกนี้เป็นคนในชีวิตจริง เราคงชอบนะ เป็นคนดี มีเหตุผล บุคลิกเงียบๆ เรียบๆ เก็บอารมณ์ความรู้สึก ไม่แสดงออก แต่พอเป็นตัวละครในนิยาย เธอและเขาไม่มีเสน่ห์น่าติดตามเลยสักนิด และมีบางอย่างเล็กๆ น้อยๆ ที่ทำให้เรารู้สึกไม่ถูกชะตากับนางเอกทั้งสองคน บอกไม่ถูก รู้สึกว่าเป็นคนถือดี ที่ไม่ใช่แค่ถือดีในตัวเอง แต่ถือว่าตัวเองดีกว่าคนอื่น พอเราไม่เกิดแรงดึงดูดกับตัวละคร ก็เลยไปทำให้เกิดแรงต้านทานกับเนื้อเรื่องแทน

3. ข้อนี้เป็นความงี่เง่าของเราเอง ที่ตอนต้นเรื่องดันสำคัญตัวพระเอกผิดคน ก็โธ่ มีอย่างที่ไหน นางเอกบังเอิญเจอหนุ่มหล่อนั่งข้างกันบนเครื่องบิน ดูจะคุยกันถูกคอ บังเอิญพ่อหนุ่มเลือกชื่อนางเอกนิยายให้สาวเจ้าได้ถูกใจอีก ลงจากเครื่องก็ยังบังเอิญต่อ หนุ่มนายนั้นเป็นลูกชายเจ้าของบ้านเช่าที่นางเอกจะไปพัก ปรกติในนิยาย บังเอิญครั้งแรกเรียกว่าบังเอิญ บังเอิญครั้งที่สองเรียกว่าโชคชะตา บังเอิญครั้งที่สามก็ต้องเรียกว่าฟ้าบันดาล คนแต่งลิขิตมาแล้วให้คู่กันแน่ๆ แต่ปรากฏว่า สจ๊วต หนุ่มเจ้าเสน่ห์รายนั้นกลับเป็นน้องชายพระเอก แป่ว เราพลาดฉากเปิดตัวแกรห์ม คนพี่ที่เป็นพระเอกตัวจริง ที่โผล่มาก่อนแล้วด้วยซ้ำไปเลย แต่เราหลงคนน้องไปแล้วอ่ะ ตอนเขาลงจากเครื่องบินแล้วขอเบอร์นางเอก เจ้าชู้ขี้เล่นอย่างน่ารักเลย พอต่อเรื่องออกมาสักพัก รู้ว่าสจ๊วตไม่ใช่พระเอกยังไม่เท่าไหร่ แต่เขาถูกแต่งเรื่องให้เป็นผู้ชายที่ค่อนข้างหลงตัวเอง และมาตามเกาะแกะนางเอกโดยไม่รู้เรื่องรู้ราวอะไรเลยอยู่ทั้งเรื่อง เราไม่ชอบพฤติกรรมที่พระเอกกับนางเอกปฏิบัติต่อสจ๊วต แทนที่จะปฏิเสธตรงๆ กลับปล่อยไปเรื่อยๆ แล้วแอบหยันเขาอยู่ลึกๆ ทำให้เป็นประเด็นที่ย้อนกลับไปที่ข้อ 2 ที่ทำให้เราไม่ชอบพระเอกนางเอกเรื่องนี้

อ่านเล่มนี้จบแล้วไปอ่านรีวิวใน Amazon แปลกดีที่เราอ่านความเห็นพวกนั้นแล้วคิดว่า เราเห็นด้วยกับทั้งพวกคนที่ให้ 5 ดาว และ 4 3 2 1 ดาว ตรงที่คนเขาชม เราก็เข้าใจ ตรงที่เขาติมันก็ถูกอีก โดยเฉพาะ Bored Girl คนที่ให้ 1 ดาวนี่อ่านแล้วฮาสุดๆ เป็นรีวิวที่เขียนสนุกกว่าตัวนิยายเองซะอีก เห็นด้วยทุกคำเลย แต่เราคงไม่ใจร้ายให้ 1 ดาวแบบเขา ถ้าต้องโหวตเรื่องนี้จริงๆ คงใส่ 3 ดาวล่ะ

2 ความคิดเห็น:

Chihaya กล่าวว่า...

โห กำลังเล็งเลยค่ะเรื่องนี้ ฟังว่าเกือบหลับ คงต้องถอยกลับ

Nas กล่าวว่า...

จริงๆ บอกว่าหลับเลยก็ได้ค่ะ เพราะอ่านตอนถึงครึ่งเล่มก็ไม่ไหว นอนดีกว่า เกือบจะเลิกอ่านกลางเรื่องแล้วด้วยซ้ำค่ะ พอมาอีกวันเอามาอ่านต่อ กะว่าคงดีขึ้น อ่านไปเรื่อยๆ รอว่าเมื่อไหร่จะมีอะไรเกิดขึ้นซะที 60% 70% 80% ก็แล้ว ก็ยังไม่มีอยู่ดี แต่มันอ่านมาซะขนาดนั้นแล้วก็เอาให้จบค่ะ ^^ แต่ทั้งที่รู้สึกว่ามันน่าเบื่อมาก มันก็ยังมีความดีอยู่หลายอย่างที่ทำให้โอเคกับมันอยู่น่ะค่ะ

แสดงความคิดเห็น