(บทความนี้เก็บจากบล็อกเก่ามาโพสท์)
ในที่สุด ความปรารถนาก่อนตายตาหลับก็ได้บรรลุไปอีกข้อแล้วในวันนี้
คือการได้อ่าน Harry Potter เล่มจบแล้ว
ได้ไฟล์ pdf หนังสือจากเน็ตเมื่อวันศุกร์ ก่อนหนังสือออก 1 วัน เช็คกับรุ่นน้องที่ร้านขายหนังสือให้ไปดูหนังสือเล่มจริงว่า เนื้อความในหนังสือเป็นของแท้ที่ เจ.เค. เขียนแน่ๆ แล้วก็เอาโหลดลงปาล์มแล้วเริ่มอ่าน Harry Potter เล่ม 7 เป็นเล่มที่สนุกมากๆๆๆๆๆ แม้จะตั้งตารอมานาน แต่พอได้อ่านจริงๆ ก็ยังสนุกเกินความคาดหมายไปอีก เพราะตอนเล่ม 5 เล่ม 6 คิดว่าไม่ค่อยสนุกเท่าไหร่ เรื่องมันเอื่อยๆ น้ำเยอะ แล้วค่อยมามีลุ้นตอนท้ายเล่ม แต่เล่ม 7 นี่สนุกตั้งแต่ต้นจนจบ ฉาก action เยอะมากๆ แล้วคลี่คลายประเด็นที่เขียนปมไว้ในเล่มก่อนๆ ได้หมด จนจบอย่างยิ่งใหญ่สมบูรณ์ เป็นเล่มที่คิดว่าสนุกที่สุดแล้ว แต่อาจจะชอบเล่ม 3 นักโทษแห่งอัซคาบันมากกว่านิดนึง เพราะชอบการพลิกไปพลิกมาของเล่มนั้น
สปอยล์สุดขีด
เล่มนี้สเนปเท่มากๆ ในเล่มที่ผ่านๆ มาไม่ได้รู้สึกชอบหรือไม่ชอบสเนปเป็นพิเศษ แต่ก็คิดอยู่แล้วว่าสเนปต้องฆ่าดัมเบิลดอร์ตามคำขอร้องของดัมเบิลดอร์เองแน่ๆ แต่เล่มนี้สเนปเท่มากๆ ฟังพูดแต่ละคำนี่ สั้นๆ แต่โคตรเท่ทั้งนั้นเลย Always, Anything, Look at me. โอย~- ตอนที่สเนปมาขอให้ดัมเบิลดอร์ช่วยลิลี่ ดัมเบิลดอร์ถามว่าจะให้อะไรตอบแทน คำเดียว Anything
- ตอนที่สเนปเสกพาโตรนุสเป็นรูปกวางตัวเมียเหมือนของลิลี่ ดัมเบิลดอร์พูดว่าตลอดเวลาที่ผ่านมานี้ ตอบคำเดียวอีก Always
- ตอนที่สเนปกำลังจะตาย บอกแฮร์รี่ว่า Look at me ขอให้แฮร์รี่มองที่ตัวเอง เพื่อจะได้มองตาลิลี่เป็นครั้งสุดท้าย
โคตรๆๆๆๆๆ เท่
ความจริงพวกแฟนๆ เค้าก็เดากันอยู่แล้วนะว่าเรื่องจะเป็นอย่างนี้ ว่าสเนปต้องแอบรักลิลี่ แม่ของแฮร์รี่แน่ๆ จากเนื้อเรื่องเล่ม 5 พอเฉลยออกมาก็ไม่แปลกใจ แต่ก็ยังประทับใจอยู่ดี พออ่านจบเล่ม บทที่ย้อนมาอ่านใหม่บทแรกเลยก็คือบทนี้แหละ The Prince’s Tale เขียนดี ประทับใจ ไม่นึกว่าสเนปจะรักลึกซึ้งขนาดนี้ ไม่ต้องการอะไรตอบแทนด้วยนะ นี่เห็นเลยว่า เจ.เค. เขียนแบบให้ความสำคัญกับความรัก อย่างที่ดัมเบิลดอร์พูด ยาครอบจักรวาล คือ ความรัก ทั้ง แฮร์รี่ สเนป และโวลเดอร์มอร์ ทั้ง 3 คน เป็นเด็กขาดความรักความอบอุ่น แต่แฮร์รี่มีเพื่อน สเนปมีความรัก ก็เลยยังเป็นคนดี ในขณะที่โวลเดอร์มอร์ปฏิเสธความรัก ก็เลยชั่วซะขนาดนี้
ตอนบทส่งท้ายรู้สึกเรื่องมันหน่อมแน้มไปหน่อย แหม สิบเก้าปีผ่านไป มีลูกสามคน คือจริงๆ อาจจะเพราะไม่ค่อยชอบจินนี่เท่าไหร่ พอหวานกันซะขนาดนั้นก็เลยรู้สึกเลี่ยนๆ นิดนึง
ไปรษณีย์มาส่งหนังสือ Harry 7 เมื่อวันจันทร์ ก็เลยอ่านใหม่อีกรอบ เพื่อเก็บรายละเอียด ถ้าอยู่บ้านคงเอาเล่ม 1 ถึงเล่ม 6 มาอ่านอีก เพราะทุกทีออกเล่มใหม่มา จะเอาเล่มเก่าๆ มาอ่านย้อนทวนอีกที ก็จะได้เห็น clue ที่ เจ.เค. เขียนเป็นรายละเอียดเล็กๆ ไม่สำคัญอยู่ในเนื้อเรื่องเล่มก่อนๆ ตลอด อ่านๆ ไปก็คิดว่า เจ.เค. โรลลิ่ง นี่อัจฉริยะจริงๆ
รู้สึกดีใจที่เราได้มีชีวิตอยู่ในช่วงของปรากฏการณ์แฮร์รี่ พอตเตอร์ ได้เข้าใจความรู้สึกร่วมในกระแสของตำนานในโลกวรรณกรรม เหมือนคนสมัยก่อนที่คนชอบเชอร์ล็อก โฮล์มส์ รักและติดตามการผจญภัยของ เชอร์ล็อก โฮล์มส์ ขนาดเซอร์ อาเธอร์ โคแนน ดอยล์ เขียนให้ตกเหวตายไปแล้ว ยังต้องเขียนให้กลับมาเลยเพราะกระแสเรียกร้องของแฟนๆ แล้วนี่ผ่านมาเป็น 100 ปี ก็ยังมีคนอยู่ทั่วโลกที่ชอบเชอร์ล็อก โฮล์มส์ กันอยู่ คิดดูสิ เราเชื่อว่า Harry Potter จะเป็นหนังสือ classic อีก 50 ปี 100 ปี ก็คงจะยังมีคนอ่านอยู่ แต่เด็กรุ่นหลังจะไม่ได้สัมผัสอารมณ์ลุ้น อารมณ์รอเป็นปีแบบนี้ ยิ่งคิดก็ยิ่งรู้สึกขอบคุณ เจ.เค. พออ่านจบปิดหนังสือ หลับตา รู้สึกอิ่มเอมในหัวใจ ถึงจุดหมายปลายทางไปอีกอย่างแล้ว เหมือนวันที่ได้ดู Star Wars ครบ 6 ภาค
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น