Once upon a time,
an angel and a devil fell in love.
It did not end well
นั่นคือบทเริ่มต้นของนิยาย YA เรื่องนี้ และเมื่ออ่านจบแล้วเราคิดว่า มันเหมาะเอามาใช้เป็นบทสรุปย่อของเล่มนี้ด้วย โรเมโอกับจูเลียตแบบแฟนตาซี นี่เป็นเล่มแรกที่ได้อ่านงานของ เลนี่ เทย์เลอร์ ที่จริงเล็งไว้นานแล้วล่ะ ตั้งแต่ชุด Dreamdark แต่ก็ยังไม่ได้อ่านซะที กะว่ารอให้ออกจบก่อน
คารูว เป็นเด็กสาวอายุ 17 ปี นักศึกษาโรงเรียนศิลปะในกรุงปราก ความลับที่ไม่มีคนอื่นรู้คือ ผมสีฟ้าของเธอไม่ได้มาจากการย้อม แต่ได้จากการอธิษฐานต่างหาก นอกเวลาเรียน เธอทำงานให้ที่ร้านของบริมสโตน คิเมียราหัวแพะที่เลี้ยงดูเธอมาจนโต คารูวรับหน้าที่เดินทางผ่านประตูมิติไปเก็บรวบรวมฟัน (ทุกชนิด รวมทั้งเขี้ยว ทั้งงา) รอบโลกให้เขา โดยไม่เคยรู้ว่าฟันพวกนั้นถูกใช้เพื่ออะไร แต่แล้ว ก็ปรากฏรอยฝ่ามือปริศนาอยู่บนบานประตูมิติ และเมื่อคารูวพบชายหนุ่มรูปงามวิ่งไล่ล่าเธอ รูปเงาของเขามีปีกอยู่กลางหลัง ชีวิตที่เธอรู้จักก็จะไม่เหมือนเดิมอีกต่อไปแล้ว
อ่านเรื่องนี้ช่วงแรกๆ ทำให้เรานึกแว้บถึง CLAMP อาจเพราะฉากในร้านบริมสโตนมันให้ความรู้สึกคล้าย xXxHolic เนื้อเรื่องไม่ได้เหมือนกันมากนักหรอก และกลิ่นอายของตะวันออกกับตะวันตกก็ต่างกันชัดเจน แต่วิธีการที่ดึงคนอ่านเข้าไปอยู่ในโลกที่คนเขียนสร้างได้อย่างรวดเร็วหน้าตาเฉย ตำนานดั้งเดิมแต่สร้างสรรค์ใหม่ ได้เจอสิ่งมีชีวิตและกฎเกณฑ์ต่างๆ ในโลกขนานโผล่ออกมาเรื่อยๆ ทั้งที่มันแปลกแต่กลับไม่รู้สึกประหลาด ยอมรับและเชื่อในเนื้อเรื่องได้ง่ายๆ เหมือนโครงเรื่องจะไม่ซับซ้อน แต่รายละเอียดยอกย้อนให้อยากติดตาม ทำให้เราอดเปรียบเทียบเรื่องนี้กับงานของ CLAMP ไม่ได้ ฮ่าฮ่า แต่ตัวละครยังไม่บิดผันขนาด CLAMP หรอกนะ
ความรู้สึกแรกที่เราคิดกับนางเอกเรื่องนี้ คงเรียกว่าความประทับใจไม่ได้ ต้นเรื่องตอนที่เธอแกล้งแฟนเก่า เราส่ายหัวในใจ เฮ้อ เด็กสมัยนี้ โชคดีที่มันแป๊บเดียวมาก หลังจากนั้นเราก็ชอบเธอแหละ ชอบเวลาที่เธอคุยกับเพื่อน และกับพวกคิเมียราที่เป็นเหมือนครอบครัวของเธอ พออ่านจบแล้วมาคิดดู ไอ้ฉากแรกๆ นั่นมันคงมีไว้เพื่อดึงนักอ่านวัยรุ่นให้รู้สึกว่าตัวเอกใกล้ชิดกับตัวเองมั้ง สับสนอ้างว้างไม่แน่ใจ บางทีก็ทำอะไรโง่ๆ ไปแล้วเพิ่งรู้ตัวทีหลังว่าตอนนั้นช่างทำไปได้ แต่สำหรับเรา ถ้าคารูวไม่เคยมีอดีตวุ่นวายกับแฟนเก่าเลย จะรู้สึกเพอร์เฟกต์กว่านี้ แต่ถ้าดูภาพรวมมันก็ถือเป็นจุดเล็กน้อยมาก เพราะฉะนั้นช่างมันเถอะ และเราชอบบทของแมดริกัลจริงๆ
ช่วงครึ่งหลังเป็นเรื่องในโลกของเซราฟิมกับคิเมียรา ฉากระหว่างอาคิว่ากับแมดริกัลช่างสวยงาม บทสนทนาของเรื่องนี้อ่านสนุก การบรรยายเนื้อเรื่องและอารมณ์ความรู้สึกของตัวละครก็ดี ฉากสุดท้ายนี่กระชากใจ บีบอารมณ์จริงๆ อ่านเล่มนี้จบแล้วมีจุดที่อยากตะโกนบ่นดังๆ ข้อเดียว ทำไมไม่บอกกันก่อนว่าเรื่องนี้เป็นไตรภาค แล้วจะได้อ่านอีกสองเล่มต่อเมื่อไหร่เนี่ย อ๊าก