วันอังคารที่ 20 กันยายน พ.ศ. 2554

The Night Circus - Erin Morgenstern

คะแนน : 8

Amazon เลือกเล่มนี้เป็นหนึ่งใน Best Books of the Month เดือนนี้ และสื่อต่างๆ ก็เชียร์เล่มนี้เยอะ แต่เหตุผลสำคัญสุดที่ทำให้ตัดสินใจเลือกอ่านคือ คนเขียนบอกว่า เรื่องนี้คงไม่มีภาคต่อ ดี ไม่ต้องมีภาระผูกพันให้ติดตาม

The Night Circus กล่าวถึงคณะละครสัตว์ลึกลับในยุคปลายศตวรรษที่ 19 ที่เดินทางเปิดการแสดงไปตามเมืองต่างๆ โดยเปิดให้คนเข้าชมเฉพาะเวลากลางคืน เบื้องหลังผืนผ้าใบริ้วดำสลับขาวของคณะละครสัตว์แห่งความฝันนี้ คือเวทีการแข่งขันระหว่างสองจอมเวทย์ ที่ฝึกฝนลูกศิษย์ฝ่ายละคนให้มาเป็นตัวแทนในการประลอง โดยที่เจ้าตัวนักมายากลหญิงสาวชายหนุ่มคู่แข่ง ซีเลียและมาร์โก้ ไม่รู้กฎกติกาใดๆ ทั้งสิ้น รวมทั้งไม่รู้ว่า ความรักที่เกิดขึ้นระหว่างทั้งสอง จะส่งผลเช่นไรต่อทุกสิ่งทุกอย่างทั้งหมด

ตั้งแต่เริ่ม เวลาอ่านจะรู้สึกว่า บรรยากาศในเรื่องนั้นราวกับต้องมนตรา ฉากในคณะเซอร์คัสแห่งนี้ บรรยายได้ดีมากเลย ไม่ว่าจะเป็นเต๊นท์เขาวงกต หรือสวนน้ำแข็ง รู้สึกว่ามันมีมนต์ขลังอยู่จริงๆ แต่เนื้อเรื่องจะรู้สึกงงนิดหน่อย เพราะมันถูกตัดสลับไปสลับมาเป็นบทๆ สั้นบ้างยาวบ้าง จากมุมมองตัวละครแต่ละคนซึ่งก็มีเยอะอยู่ บางทีเล่าเรื่องย้อนไปมาไม่เรียงตามลำดับเวลาอีกต่างหาก ครึ่งเล่มแรกเหมือนอ่านเอาบรรยากาศอย่างเดียว เนื้อเรื่องไม่คืบหน้าเลย แต่ก็ทำได้ดีนะ จงใจสร้างอารมณ์เหมือนมายา กึ่งฝัน วิบวับลับตา จับต้องไม่ค่อยได้ แต่จะมองว่าน่าเบื่อก็ได้เหมือนกัน

ภาษาที่ใช้ไม่ได้หรูหราฟุ้งเฟ้อจนเกินเหตุ ทว่าหมดจดงดงามจนพาเคลิ้ม แต่เพราะวิธีการเขียนราวกับให้ดูภาพ คนแต่งก็ไม่เคยจะพาเราเข้าไปในหัวตัวละครเลย ช่วงแรกๆ ก็ทำเราอึดอัดคับข้องใจอยู่ พระเอกนางเอกคิดอะไรรู้สึกยังไงก็ไม่ค่อยรู้เลย แต่พอคุ้นเคยกับตัวละครไปเรื่อยๆ ก็จะเริ่มอินได้ เราชอบฉากที่มาร์โก้ก้มหน้ามาจะจูบ แล้วซีเลียเบือนหน้าหนี ให้อารมณ์รักต้องห้ามมากๆ อืมม์ แฮะ ไม่จำเป็นต้องใช้เวลาครึ่งเล่มคร่ำครวญว่ารักแค่ไหน ต้องหักห้ามใจเพียงใด บรรยายสั้นๆ นิดเดียวก็ทำให้คนอ่านประทับใจได้เหมือนกัน

ความจริงเนื้อเรื่องเรื่องนี้น้อยมาก เรื่องย่อตอนต้นเกริ่นไว้ยังไง ตอนจบก็มีประเด็นแค่นั้นแหละ แต่ความสนุกของมันคงอยู่ที่บรรยากาศ กับการติดตามว่า ชิ้นส่วนจิ๊กซอว์เนื้อเรื่องที่กระจัดกระจายในครึ่งแรก มันมาร้อยเรียงเป็นภาพใหญ่ในครึ่งเรื่องหลังได้อย่างไร พอเห็นภาพต่อเรียงกันเยอะขึ้นก็ทำให้เข้าใจปมประเด็นของเนื้อเรื่องซะที ก็จะรู้สึกน่าติดตามมากขึ้น ชอบพวกรุ่นเด็ก พ็อพเพ็ต วิดเจ็ต เบลีย์ เป็นตัวช่วยดำเนินเรื่องที่ดี และช่วยเร่งจังหวะให้เนื้อเรื่องเข้าสู่ไคลแม็กซ์ได้ลุ้นขึ้น แต่ตอนจบก็ยังงงๆ อยู่หน่อยนะ เหมือนจะเข้าใจแต่ก็ไม่แน่ใจ รักษาอารมณ์แฟนซีทั้งเรื่อง

อ่านเล่มนี้เหมือนเล่นม้าหมุนหรือขึ้นชิงช้าสวรรค์มั้ง ไม่ได้สนุกตื่นเต้นเหมือนเล่นรถไฟเหาะ แต่ก็รู้สึกดีที่ได้ขึ้น โดยเฉพาะตอนช่วงที่อยู่สูงที่สุด พอกลับถึงพื้นแล้วก็ยังรู้สึกดี แต่จะชอบเล่นแล้วเล่นอีกมั้ย ก็คงไม่นะ

ป.ล. ไม่รู้จะแปะป้ายหมวดไหนให้เล่มนี้ มีเวทมนตร์แต่ไม่เหมือนเรื่องแฟนตาซี กล่าวถึงความรักแต่ห่างไกลมากจากนิยายโรแมนซ์หรือโรแมนติก ชีวิตดราม่าก็ไม่ใช่ จะบอกว่าเป็นนิยายย้อนยุคหรือ เหตุการณ์ก็อยู่ในคณะเซอร์คัสเกือบทั้งหมด ฉากอดีตเป็นเพียงส่วนประกอบให้เหมือนภาพฝันขึ้นเท่านั้น

2 ความคิดเห็น:

Chihaya กล่าวว่า...

น่าสนใจค่ะ ชวงนี้อ่านหนังสือที่มีภาคต่อเยอะเหลือเกิน ตัวละครตบตีกันในหัว อยากอ่านเรื่องสนุกๆที่ค้ำฟ้าแบบเดี่ยวๆได้มั่ง

Nas กล่าวว่า...

นั่นสิคะ บางทีอ่านเรื่องที่นานๆ ออกเล่มต่อที แล้วลืมเรื่องเล่มก่อนหน้าอีก กว่าจะต่อติด

เล่มนี้ก็ไม่เชิงว่าสนุกนะคะ แต่มันเหมาะกับการอ่านเวลานึกครึ้ม กลางคืนออกมาที่ระเบียงมองดาวเต็มฟ้า อะไรแบบนั้น

แสดงความคิดเห็น