คะแนน : 7.5
เป็นเรื่องแรกของนักเขียนหน้าใหม่ หยิบมาอ่านเพราะเห็นรีวิวที่ได้ระดับ A จาก All About Romance พอเริ่มอ่านไปได้สัก 3 บท ก็เริ่มรู้สึกเสียใจหน่อยๆ ว่าเอาอะไรมาอ่านนี่เสียเวลา สำนวนการเขียน การดำเนินเรื่อง มันกระชากไปเร็ว แล้วความรู้สึกกระตุกๆ เหมือนดูหนัง DVD ที่เราเล่นภาพแบบ Fast Forward มีอย่างที่ไหน พระเอกเจอหน้านางเอก 5 นาทีในงานเลี้ยง คุยกันไม่กี่คำ เนฟ พระเอกเป็นลูกท่านเอิร์ล เพนเนโลปี นางเอกเป็นลูกสาวพ่อค้ามหาเศรษฐีธุรกิจโรงเบียร์ ถัดมาพ่อพระเอกตาย พระเอกพบว่าตัวเองจมอยู่ในกองหนี้สิน หายนะมาอยู่ตรงหน้า แล้วก็แก้ปัญหาด้วยการวิ่งไปขอแต่งงานกับนางเอก โดยบอกดื้อๆ ว่า ผมต้องการเงิน คุณแต่งงานกับผมเถอะ นางเอกก็ตอบตกลงเฉยเลยแค่ถูกพระเอกจูบทีเดียว เรื่องทั้งหมดนี้เกิดขึ้นหลังจากเริ่มอ่านไปไม่ถึงสิบห้านาที
เท่าที่อ่าน Rose Lerner คงจะชอบ Georgette Heyer เพราะเลียนแบบถ้อยคำหรือสำนวนบางอย่างที่เราได้เห็นในงานของ Heyer มา แต่ถ้าใครชอบ Heyer คงรับไม่ได้กับความประพฤติของเพนเนโลปีว่า เธอเป็นผู้หญิงที่ได้รับการอบรมในยุครีเจนซี่จริงหรือ จริงๆ นะ ความรู้สึกเราช่วงแรก ทำไมดูถูกคนอ่านยังงี้วะ เรื่องมันเบาหวิว ตัวละครดูเหมือนไร้ความคิด โชคดีที่หลังจากนั้นทุกสิ่งทุกอย่างก็ดีขึ้นเยอะเลย เริ่มจากลิสท์ที่นางเอกร่างขึ้น เพื่อให้พระเอกปรับปรุงพฤติกรรมก่อนการแต่งงาน เนฟน่ารักดี เหมือนจะไร้ความสามารถ เสเพล แต่พอเกิดเรื่อง ก็มีความคิดว่าตัวเองต้องรับผิดชอบ แล้วก็พร้อมจะปรับปรุงตัว
เมื่อทั้งสองแต่งงานกันแล้วไปอยู่ที่ชนบท ความดีของเรื่องค่อยปรากฏเห็นชัด เราพบคฤหาสถ์ที่อยู่ในสถานะย่ำแย่ สภาพแร้นแค้น และความยากลำบากของลูกบ้านที่อาศัยอยู่บนที่ดินของพระเอก ซึ่งไม่บ่อยนักที่เราจะเจอมุมมองด้านนี้ในนิยายโรแมนซ์ เนฟกับเพนเนโลปีค่อยๆ ปรับตัวเข้าหากัน เพนนีช่วยดูแลการงาน ในขณะที่เนฟก็ช่วยเอาใจใส่ดูแลเพนนี ที่ขาดความมั่นใจในตัวเอง เพราะถูกสังคมผู้ดีดูถูกชาติกำเนิดของเธอมาตลอด ความสัมพันธ์ของตัวละครมีพัฒนาการดี ค่อยๆ เรียนรู้กัน ก้าวข้ามความเข้าใจผิดที่เกิดจากความแตกต่างกัน และเติมเต็มสิ่งที่ขาดให้กัน ทำให้เรารู้สึกว่าทั้งสองเหมาะสมกันดี และเราชอบวิธีการปฏิบัติตัวของเนฟและเพนนี ที่มีต่ออดีตนางบำเรอของเนฟ
รวมๆ เราให้คะแนนเรื่องนี้ที่ 7.5 แม้จะไม่ได้ตามที่เราคาดหวังไว้ก่อนอ่าน จากรีวิวของ AAR แต่ถ้ามองว่านี่เป็นนิยายเล่มแรกของผู้แต่ง ก็ถือว่าใช้ได้ ถ้าตัดพล็อตเรื่องบางอย่างที่มันอ่อนไปหน่อยได้ บทของตัวละครรองและตัวร้ายที่แสนห่วยแตก ขัดเกลาสำนวนภาษา การเขียน การดำเนินเรื่อง ให้เป็นธรรมชาติของเธอเองกว่านี้ ก็น่าจะดีขึ้นเรื่อยๆ
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น