คะแนน : 8
คงเหมือนใครหลายคน เรารู้จักชื่อ Michael Crichton จากเรื่อง Jurassic Park (คะแนน 9.5) เริ่มต้นจากดูหนัง แล้วก็มาอ่านนิยาย ไม่น่าเชื่อที่ต้องบอกว่า หนังแอกชั่นไดโนเสาร์ที่ดูมันส์มากๆ แล้ว อ่านหนังสือลุ้นสนุกกว่าดูหนังซะอีก โดยเฉพาะฉากหนีทีเร็กซ์ที่น้ำตกที่ไม่มีในภาพยนตร์ ตอนอ่านยังแปลกใจเลยว่า ขนาดไม่มีภาพไม่มีเสียง แค่ตัวหนังสือ ทำให้รู้สึกตื่นเต้นลุ้นระทึกขนาดนี้ได้ไง ที่สนุกมากๆ อีกเรื่อง คือ The Great Train Robbery ปล้นเหนือเมฆ (คะแนน 9) เรื่องอื่นๆ ที่เคยอ่านก็สนุกดีทุกเรื่อง เมื่อช่วงที่ไครช์ตันเสียชีวิต ได้อีบุ๊คของเขามาทั้งล็อต ช่วงนี้ไม่มีเรื่องใหม่ๆ อยากอ่าน ก็เลยเปลี่ยนบรรยากาศ กลับไปอ่านเรื่องที่ยังไม่เคยอ่านของนักเขียนที่ชอบบ้าง
Disclosure เคยสร้างเป็นหนัง (ไมเคิล ดั๊กลัส / เดมี่ มัวร์) แต่ไม่เคยดู เห็นพล็อตเรื่องแล้วนึกว่าไม่น่าสนุก เป็นเรื่องการคุกคามทางเพศในที่ทำงาน ผู้แต่งบอกว่า เขียนมาจากเค้าโครงเรื่องที่เกิดขึ้นจริง แต่เปลี่ยนแปลงชื่อกับสภาพแวดล้อมต่างๆ เห็นนิยายเรื่องนี้ก็ได้คะแนนรีวิวจากคนอ่าน Amazon ดี ก็เลยเลือกเรื่องนี้
ทอม ซานเดอร์ ทำงานเป็นหัวหน้าแผนกอยู่ในบริษัทเทคโนโลยีดิจิตอลแห่งหนึ่ง บริษัทของเขากำลังอยู่ในระหว่างการเจรจา ควบรวมกิจการกับบริษัทสื่อการศึกษารายใหญ่ เขาคาดหวังจะได้รับการเลื่อนตำแหน่ง ในการปรับโครงสร้างองค์กรใหม่เพื่อรองรับการรวมกิจการครั้งนี้ แต่แล้วกลายเป็นว่า ตำแหน่งรองประธานกลับตกเป็นของเมอริดิธ จอห์นสัน อดีตคนรักของเขาเอง ในวันแรกที่เธอเข้ารับตำแหน่ง เมอริดิธ เชิญเขาเข้ามาคุยในห้องสองต่อสองตอนเย็น และรุกไล่เขาให้มีเพศสัมพันธ์ด้วย เมื่อสุดท้ายทอมปฏิเสธ วันรุ่งขึ้น เมอริดิธ ฟ้องประธานว่า ทอมคุกคามทางเพศ ทางบริษัทจึงแจ้งย้ายทอมไปสาขาอื่น ซึ่งอาจทำให้เขาสูญเสียงาน ทอมจึงจ้างทนายเพื่อฟ้องร้องกลับว่า เธอต่างหากที่เป็นผู้คุกคามทางเพศเขา
เรื่องนี้ไม่มีไดโนเสาร์ ไม่มีปล้นรถไฟ ไม่มีย้อนเวลา ไม่มีเครื่องบินตก แบบเรื่องอื่นๆ ของไครช์ตัน เรื่องราวเกิดขึ้นในออฟฟิศล้วนๆ แต่ก็สร้างความสนุกน่าติดตามได้ตลอดเรื่อง แสดงให้เห็นถึงฝีมือของผู้แต่งจริงๆ เล่นจังหวะการเล่าเรื่องได้ดีมาก ยอกย้อนซ่อนเงื่อน ให้อยากรู้ได้ตลอด นี่เป็นนิยายเก่า 15-16 ปีแล้ว เทคโนโลยีในเรื่อง เป็นเรื่องของการผลิต CD-ROM กับ Virtual Reality เรื่องเกี่ยวกับ CD นี่ล้าสมัยแล้ว แต่ VR นี่ ความเป็นจริงยังตามไม่ถึงจินตนาการในเรื่องเลย
สุดท้ายเราชอบสิ่งที่ทนายสาวในเรื่องพูด "Unfortunately, the law has nothing to do with justice, It's merely a method for dispute resolution." กฎหมายไม่เกี่ยวอะไรกับความยุติธรรมเลย มันเป็นแค่วิธีการยุติการทะเลาะกันเท่านั้น
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น