วันอาทิตย์ที่ 15 สิงหาคม พ.ศ. 2553

The Spymaster's Lady - Joanna Bourne

คะแนน : 8.5

The Spymaster's Lady เป็นเล่มแรกของซีรีส์ แต่เรื่องราวเกิดขึ้นหลัง The Forbidden Rose เล่ม 3 พอมาอ่านทีหลัง เลยเหมือนเล่มนี้เป็นภาค 2 เลย ใจหนึ่งก็ดีใจที่ชอบเล่มนี้มากกว่าเล่มนั้น แต่อีกใจก็เป็นห่วงว่า ถ้าเล่มแรกสนุกกว่าเล่มหลัง แปลว่า นักเขียนฝีมือตกรึเปล่าหวา?

โรเบิร์ต เกรย์ หัวหน้าหน่วยจารชนชาวอังกฤษ มาติดอยู่ในคุกเดียวกันกับ แอนนีค วิลลิเยร์ สายลับสาวชาวฝรั่งเศส จึงร่วมมือกันหนีออกมา แต่เพราะเกรย์คิดว่าแอนนีครู้ที่ซ่อนแผนการลับที่เป็นแผนบุกอังกฤษของนโปเลียน เขาจึงคุมตัวเธอเดินทางหนีการไล่ล่ากลับอังกฤษ

เราชอบแอนนีคตั้งแต่แรก เก่งรอบตัวมากสมเป็นสายลับหญิงเลื่องชื่อ ช่วยพระเอกหนีออกจากคุก พอถูกเกรย์หลอกจับ ก็เกือบหนีไปได้ตั้งหลายครั้ง และยิ่งตอนที่เนื้อเรื่องเปิดเผยความลับครั้งแรก เกี่ยวกับอาการผิดปกติของเธอ เราทึ่งมากๆ สภาพแบบนี้ยังเอาตัวรอดได้ ความนับถือนางเอกเพิ่มขึ้นหลายกิโล ส่วนเกรย์ก็เก่งค่ะ อาจจะไม่ชอบนิดหน่อยที่เขาหลอกแอนนีคหลายครั้ง แต่เมื่อคิดถึงอาชีพของตัวเอกแล้วก็ต้องยอมรับว่า มันต้องเป็นอย่างนี้

เล่มนี้เรื่องราวดำเนินเกี่ยวพันกับงานสายลับล้วนๆ ซึ่งสนุกน่าติดตาม การหลบหนีการตามล่า การต่อสู้แบบไม่เน้นกำลังแต่เน้นไหวพริบ รายละเอียดต่างๆ ในงานสายลับอ่านแล้วสนุกดี แต่เรื่องความเป็นโรแมนซ์ก็ไม่ด้อยเลย ความขัดแย้งในใจนางเอก ระหว่างความรักที่ไม่ตั้งใจให้เกิดแต่ก็รักไปแล้ว กับการเป็นคนทรยศต่อชาติ ต่อสหาย เป็นเรื่องที่ทำใจยากลำบากจริงๆ ตอนที่เธอบอกลาเกรย์ แล้วยกคำของเพลโตขึ้นมา แล้วบอกว่า เธอคิดว่าเกรย์เป็นอีกครึ่งหนึ่งของตัวเธอ แต่ถูกสลับบนสวรรค์ จนทำให้มันเป็นไปไม่ได้ อ่านแล้วประทับใจมากๆ

เรื่องราวตอนอยู่ในอังกฤษก็สนุก ความลับที่เกี่ยวกับสถานะของตัวแอนนีค อันที่จริงก็พอเดาเรื่องได้อยู่ จากรายละเอียดเล็กๆ น้อยๆ ที่ผู้แต่งปล่อยออกมา แต่พอถึงฉากเปิดเผยความจริง ก็ยังเป็นฉากที่เร้าอารมณ์มากๆ ส่วนฉากไคลแม็กซ์ที่เป็นการเผชิญหน้าสุดท้ายระหว่างสายลับต่างฝ่าย เพื่อคลี่คลายปมของเรื่อง ก็สนุกมาก ผู้แต่งหาทางออกได้อย่างลงตัว ทางเลือกของนางเอกที่ทำไปจะไม่ผิดต่อความรู้สึกตัวเอง และไม่ได้ยอมศิโรราบต่อฝ่ายพระเอกเฉยๆ ชะตาชีวิตนางเอกในอนาคตที่ดูเหมือนไม่น่ารอดจากการถูกตามล่า ก็คลี่คลายได้ด้วยดี ด้วยวิธีการที่พระเอกจัดการได้อย่างน่าชื่นชมมากๆ

ที่จริงก่อนหน้านี้เราขัดใจกับเกรย์หลายที อยากให้เขาตรงไปตรงมากับแอนนีคมากกว่านี้หน่อย เพราะแม้แต่หลังจากที่เป็นคนรักกันแล้ว เกรย์ก็ยังพยายามล่อหลอก/ไล่ต้อน/ควบคุมให้แอนนีคทำดังที่เขาต้องการเสมอ แต่ในตอนสุดท้ายนี่ เขายกระดับตัวเองในสายตาเราได้เยอะเลย เกรย์กับแอนนีคเป็นคู่ที่ perfect มาก สรุปว่าชอบเรื่องนี้มากๆ เลย

เล่มนี้ฮอว์คเกอร์หรือเอเดรียน โตเป็นเด็กหนุ่ม ไม่ค่อยแสบเท่าไหร่แล้ว เขาดีกับแอนนีคมาก แต่ยังปากเก่งตอนอยู่กับดอยล์+แม็กกี้ พอดีบทไม่ค่อยเยอะ ส่วนจัสตีนไม่กล่าวถึงเลย แต่ก็น่าจะเป็นสาวฝรั่งเศสคนที่ฝังลูกปืนในตัวเอเดรียนมั้ง

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น