วันอาทิตย์ที่ 8 สิงหาคม พ.ศ. 2553

มหากาพย์ภูผามหานที ตอน วีรบุรุษผู้กล้า - เฟิ่งเกอ

คะแนน : 7

ภาคนี้มี 8 เล่ม เรื่องราวต่อเนื่องจากปฐมบทผู้กล้า ตัวเอกเป็นลูกชายของพระเอกนางเอกภาคที่แล้ว ชื่อเหลียงเซียว ไม่เล่าเรื่องย่อนะคะ มีคนเขียนเล่าไว้ในเน็ตเยอะแล้ว จะพูดถึงแต่ความคิดเรา

เล่ม 1 เหลียงเหวินจิ้งตายอนาถจริงๆ ด้วย ตายไม่ว่า แต่น่าจะยิ่งใหญ่กว่านี้หน่อย เหลียงเซียวตอนเป็นเด็กนี่เกรียนอย่างที่มีคนวิจารณ์จริงๆ เล่มต้นๆ นี่ยังโอเค ตอนเข้าวังความลับฟ้า มีเรื่องราวน่าติดตามใช้ได้ทีเดียว วิชาฝีมือที่ผสมคณิตศาสตร์กับกระบวนท่ารูปปั้นวีรบุรุษโบราณนี่แปลกใหม่ใช้ได้ แต่พอออกจากวังความลับฟ้า เรื่องราวก็เริ่มมั่วสะเปะสะปะ ตกลงจะแก้แค้นหรือจะทำอะไร เดี๋ยวก็ไปสู้กับยอดฝีมือคนโน้นคนนี้ เดี๋ยวก็ไปนำทัพมองโกล วิชาฝีมือก็สับสน ไอ้วิชาที่อุตส่าห์ฝึกก็กลับเปลี่ยนแนว เป็นลูกกลมหยินหยาง กระบี่ฝ่ามือกำลังภายในมั่วไปหมด ท่าเท้าทศทิศที่เป็นจุดเด่นอุตส่าห์คิดเองได้ก็ไม่เห็นจะใช้เท่าไหร่เลย

ช่วงเล่มกลางๆ ถ้าใช้สำนวนกำลังภายใน ต้องบอกว่าอ่านแล้วรู้สึกท้อแท้ผิดหวัง แทบเห็นว่าเฟิ่งเกอนี้มีเพียงกระบวนท่าลักจำ ปราศจากวิชาฝีมือที่แท้จริง ในภาคปฐมบทผู้กล้า เนื่องจากเล่มเดียวจบ จึงรวบรัดชัดเจนกว่า เป็นผลงานเล่มแรกของนักเขียนใหม่ จะดำเนินรอยตามปรมาจารย์กิมย้ง ก็ไม่ใช่เรื่องน่าตำหนิมากนัก เนื่องจากไม่ยาว ยังเห็นฝีมือผู้แต่งไม่นาน เห็นเปล่งประกายมีแวว คนอ่านก็ยินดี แต่ในวีรบุรุษผู้กล้า มีหลายส่วนลอกเลียนกิมย้งมากเกินไป เช่นการประลองดนตรีของสามยอดฝีมือ ฉากฉลามกัดกินพวกเดียวกันในทะเล คัดลอกมาชัดเจน รู้สึกว่าน่าละอายไปบ้าง เนื่องจากเป็นเรื่องยาวแล้ว ได้เห็นฝีมือเต็มที่ เปรียบเหมือนเฟิ่งเกอแสดงกระบวนท่าออกมามากหลาย แต่ไม่มีไม้ตายที่เป็นเอกลักษณ์ของตัวเองที่แท้จริง ดูไปดูมามีแค่นี้เอง อ่านไปรู้สึกไร้รสชาติยิ่ง

เล่ม 7-8 เนื้อเรื่องสนุกขึ้น การพบกันอีกครั้งของสองแม่ลูก จนถึงบทสรุปของความแค้นนี่เขียนได้ประทับใจ เรื่องราวความรักของเหลียงเซียวกับหญิงสาวในเรื่อง ก็ดำเนินเรื่องได้ดี แม้ตัวเอกจะโลเลไปบ้าง แต่ไม่ใช่ผู้ชายน่ารังเกียจ อ่อนแอห่วยแตกแบบเตียบ่อกี้ในดาบมังกรหยก แต่แสดงภาพความรักสามเส้าที่ทุกฝ่ายน่าเห็นใจและไม่มีใครผิดได้ดี

แต่ในข้อดีที่มี ก็ไม่อาจกลบจุดอ่อนที่เห็นชัดได้ เนื้อเรื่องไม่มีพล็อตหลัก แค่ติดตามการผจญภัยของเหลียงเซียวตั้งแต่เป็นเด็กสิบขวบ จนถึงอายุ 30 ปี เรื่องราวสับสนไม่ปะติดปะต่อ เดี๋ยวอยู่ในจงหยวน เดี๋ยวลงทะเล เดี๋ยวเดินทางข้ามทะเลทราย ตัวละครในเรื่องไม่มีใครโดดเด่น แค่มีบุคลิกสุดโต่งเลียนแบบตัวละครจากเรื่องดังๆ ยุคเก่า ฉากสงครามการรบเลียนแบบเรื่องของหวงอี้ แต่ไม่อลังการเท่า ฉากสุดท้ายเรื่องปริศนาชะตากรรมของตัวเอก เหมือนจะดีเขียนให้ตีความ แต่จริงๆ ห่วย มีคนใช้มุกนี้ไม่รู้กี่เรื่องแล้ว

ที่เห็นแปลกหน่อย มีเพียงมุมมองที่มีต่อสงครามและการต่อสู้แก่งแย่งในเรื่อง เฟิ่งเกอเป็นนักเขียนยุคใหม่ ความคิดก็เลยออกแนวโลกาภิวัตน์หน่อย มองโกลไม่ใช่เพียงคนเลวผู้รุกราน ต่างจากความคิดกู้ชาติในเรื่องมังกรหยก ที่อาจจะดูคร่ำครึไปบ้างในสายตาคนปัจจุบัน

สรุปว่า อ่านได้เอาสนุก แต่ยังไม่สามารถจัดเข้าทำเนียบยอดนิยายกำลังภายใน หวังว่า ภาค 3 จะดีกว่านี้ แต่รอเวลาก่อนดีกว่า ยังไม่รีบอ่าน จะได้ไม่ติดอคติไปมากนัก

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น