วันจันทร์ที่ 28 มิถุนายน พ.ศ. 2553

Branded by Fire & Blaze of Memory - Nalini Singh

Branded by Fire (Psy/Changeling 6)
คะแนน : 8



เรื่องนี้พระเอกนางเอกต่างก็เป็นเชนจลิงก์ ก็เลยไม่มีใครต้องต่อต้านความรู้สึกตัวเองแบบชาวไซ เปิดเรื่องมาทั้งคู่ก็หักห้ามอารมณ์ไม่ได้ มีอะไรกันซะแล้ว Hot มาก เล่มอื่นกว่าจะพัฒนาความสัมพันธ์กันถึงจุดนั้นได้ก็มักจะประมาณ 2/3 ของเรื่อง ถึงจะมีความสัมพันธ์ทางกายเร็ว แต่ในทางจิตใจก็ใช่ว่าจะลงเอยกันได้ง่ายๆ เมอร์ซี่แม้เป็นหญิง แต่เธอก็เป็นหนึ่งในกลุ่มทหารเอกของฝูงดาร์คริเวอร์ ส่วนไรลีย์เป็นมือขวาของอัลฟ่าฝูงสโนว์แดนเซอร์ ซึ่งเสือดาวและหมาป่าต่างเป็นเผ่าพันธุ์นักล่า ที่อยู่บนสุดของห่วงโซ่อาหารทั้งคู่ ก็เลยนำไปสู่ปัญหาความขัดแย้ง ไม่ใช่เรื่องง่ายที่สัญชาติญาณในตัวจะยอมลงให้กันง่ายๆ และถ้าเมอร์ซี่ยอมรับไรลีย์ แล้วสายสัมพันธ์ในเผ่าของเธอจะเป็นอย่างไร

อย่างไรก็ตามเมื่อเทียบกันแล้ว ปมปัญหาที่เป็นความขัดแย้งทางความรู้สึกระหว่างพระ-นางของเรื่องก็เบากว่าเล่มอื่นๆ ในชุดอยู่พอสมควร เมอร์ซี่เป็นตัวละครเอกคนเดียวเลยมั้งที่มีครอบครัวอบอุ่นสมบูรณ์ มีทั้งพ่อแม่บวกกับน้องชายสามคน ฉากที่พาไรลีย์มาดินเนอร์ที่บ้านน่ารักดีค่ะ เมื่อปัญหาความขัดแย้งในความสัมพันธ์ไม่มาก เล่มนี้จะไปเน้นเนื้อเรื่องด้านการพยายามขัดขวางกลุ่ม Human Alliance แทน ซึ่งก็สนุกดีค่ะ และได้เห็นสภาพแวดล้อมของโลกมากขึ้นกว่าเล่มก่อนๆ


Blaze of Memory (Psy/Changeling 7)
คะแนน : 7.5



เรามีปัญหากับการอ่านชื่อพระเอกเรื่องนี้ เพราะตัวละครในโลกของ Psy/Changeling เป็นสังคมพหุเชื้อชาติปะปนกันยุ่งเหยิงไปหมด (ตามภูมิหลังของผู้แต่ง นลินี ซิงห์ ชื่อแขก เกิดฟิจิ โตนิวซีแลนด์ เคยไปทำงานอยู่ญี่ปุ่น) ชื่อตัวละครก็จะหลากหลายมาก ตอน Ashaya & Amara อชยากับอมรา คงจะเป็นชื่อแขก แต่เราอ่านสำเนียงไทยเลย ไม่ขัดหูเท่าไหร่ เพราะอ่านง่ายกว่าอชาย่า อมาร่า แล้วรู้สึกชื่อมันสื่อความหมายสะท้อนบุคลิกตัวละครดีน่ะค่ะ เดาว่ามันคงแปลว่า ไม่แพ้ กับ ไม่ตาย แต่ชื่อ Dev จะเรียก เดฟ ก็ขัดกับชื่อเต็ม Devraj เพราะในเรื่องบอกชัดว่ามาจากภาษาฮินดี เวลาถอดตัวสะกดเป็นแบบไทยก็น่าจะได้ว่า เทวราช / เทพราช แต่จะเรียก เทพ ก็ฟังลิเกยังไงไม่รู้ ตอนอ่านก็สลับไปสลับมาในหัว เด๊ฟ / เด้พ / เทพ ตกลงใจไม่ได้ว่าจะอ่านยังไงดีจนจบเรื่องก็ยังเรียกสลับอยู่

เล่มนี้นางเอกเป็นไซ นักวิทยาศาสตร์ผู้ช่วยของอชยา ที่ใครๆ คิดว่าตายไปแล้ว อีคัทเธรีน่าถูกหมิง เลอบง สมาชิกสภาไซจับตัวไปทรมาน และถูกปล่อยตัวมาไว้ที่หน้าบ้านของ Dev ซึ่งเป็นผู้อำนวยการมูลนิธิไชน์ องค์กรของกลุ่มผู้ถูกลืม ลูกหลานของกลุ่มไซกบฏที่ไม่ยอมรับการปิดกั้นอารมณ์และแยกตัวออกจาก PsyNet เมื่อร้อยปีก่อน หมิงวางกับดักไว้ในจิตใจของหญิงสาวเพื่อใช้เธอเป็นอาวุธ ความขัดแย้งของพระ-นางเรื่องนี้จึงเห็นชัด เพราะถึงแม้เธอจะอยู่ในสภาพสูญเสียความทรงจำ อ่อนแอ แต่เขาก็รู้ดีว่าเธอเป็นตัวอันตราย ช่วงแรกๆ Dev เข้มกับแคทย่าพอสมควรเลย แคทย่าก็เป็นนางเอกที่ดูเปราะบางที่สุดในชุดนี้ เพราะความไม่แน่ใจในจิตใจตัวเองว่าถูกแฝงเล่ห์กลอะไรไว้ แต่เธอก็พยายามต่อสู้กับมัน เราชอบเธอนะ แต่บางทีก็คิดว่า บางครั้งเธอปล่อยให้พระเอกทำตามใจตัวเองมากไปหน่อย

เนื่องจากทั้งคู่ไม่ใช่เชนจลิงก์ เนื้อเรื่องเล่มนี้ก็เลยดูโดดๆ ห่างๆ จากเล่มอื่น ที่ปกติเรื่องราวจะวนเวียนเกี่ยวพันอยู่กับฝูงดาร์คริเวอร์เป็นหลัก แล้วเล่มนี้เนื้อเรื่องในโลกแวดล้อมโดยรวม ไม่คืบหน้าไปมากเท่าไหร่ บางช่วงรู้สึกอืดๆ ไปบ้าง (เอ หรือจะเป็นเอฟเฟกต์ทางอารมณ์จากการดูอังกฤษแพ้เยอรมันตกรอบบอลโลก) แต่รวมๆ ซีรีส์นี้ก็ยังน่าติดตามอยู่มากๆ โชคดีที่เดือนหน้าจะมีเล่มใหม่ออกแล้ว อยากอ่านๆ แต่เล่ม 8 กับเล่ม 9 ก็ยังไม่ใช่เรื่องของตัวละครสำคัญในซีรีส์ เราอยากอ่านเรื่องของฮอว์คกับเรื่องของคาเล็บมากๆ แต่เดาว่า ถ้ามีเรื่องของคาเล็บ น่าจะเป็นเล่มอวสานของเรื่องชุดนี้

Update: เรามั่วจริงๆ ค่ะ ลองหาดูในเว็บตั้งชื่อ เจอบอกว่า Ashaya มาจากชื่ออารบิก แปลว่า Life and Hope

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น