วันอาทิตย์ที่ 12 ธันวาคม พ.ศ. 2553

The Lost Hero (Heroes of Olympus #1) - Rick Riordan

คะแนน : 8

หลังจากอ่านเพอร์ซีย์จบ ตอนแรกคิดว่าจะพักก่อนที่จะอ่านเรื่องชุดใหม่ของ Rick Riordan เพราะนึกว่าเป็นเรื่องใหม่ที่อยู่ในโลกเดียวกันเฉยๆ เห็นมีตัวเอกชุดใหม่ นึกว่าถ้ามีพวกตัวละครเดิมปรากฏตัว ก็อาจจะโตเป็นผู้ใหญ่กลายเป็นผู้ดูแลแคมป์ทำนองนั้น ที่ไหนได้ พอเปิดมาพลิกแป๊บๆ อ้าว นี่มันต่อเนื่องจากเรื่องเดิมเลยนี่นา เวลาไม่ได้ผ่านไปเลย มันก็คือ เพอร์ซีย์ แจ็คสัน ภาคสอง เลยจริงๆ แค่เปลี่ยนตัวพระเอก

เนื้อเรื่องภาคใหม่มีส่วนที่ต่อเนื่องมาจากท้ายเล่มภาคที่แล้ว ภาคเดิมเราก็รู้สึกว่าจบแบบไม่มีอะไรคาใจนะ แต่พอมาอ่านเล่มนี้ เออ มันก็มีประเด็นรายละเอียดที่ยังเคลียร์ไม่หมดจริงแฮะ เรื่องคำพยากรณ์ถึงผู้กล้า 7 คนที่ต้องเผชิญมหันตภัยครั้งใหม่ อดีตที่เธเลียไม่ยอมพูดถึง ถูกจับเอามาใส่ในภาคนี้ดีมากเลย แคมป์ฮาล์ฟบลัดยังอยู่ แต่บรรยากาศเปลี่ยนไปนิดหน่อย ตัวละครเดิมก็กล่าวถึงแต่ไม่ครบทุกคน

ตัวเอกภาคนี้คือ เจสัน ไพเพอร์ และลีโอ ทั้งสามอยู่ในรถบัสทัศนศึกษาของโรงเรียนสำหรับเด็กเจ้าปัญหา แต่ที่แปลกคือ เจสันไม่มีความทรงจำก่อนที่เขาจะมาอยู่บนรถบัสคันนั้นเลย และรอยสักปริศนาที่แขนของเขาหมายความว่าอะไร จู่ๆ ก็ถูกอสูรวายุโจมตี มีคนจากแคมป์ฮาล์ฟบลัดมาช่วย แล้วพาทั้งสามมาอยู่ที่แคมป์ ทั้งสามจึงเพิ่งได้รับรู้ความจริงว่า ตัวเองคือลูกครึ่งเทพ และทั้งสามเป็นวีรบุรุษ (& วีรสตรี) ที่อยู่ในคำพยากรณ์ งานชิ้นแรกของพวกเขาคือ การออกเดินทางเพื่อไปช่วยเทพีที่ถูกกักตัวไว้

แหม เพิ่งคิดอยู่หยกๆ ว่า ภาคที่แล้วตัวละครไม่ค่อยมีความในใจ เพอร์ซีย์เหมือนสู้ไปเรื่อยๆ ไม่ค่อยคิดอะไร เล่มนี้ตัวละครแก๊งใหม่สามคนนี่เด็กเจ้าปัญหาทั้งนั้น คิดเยอะมาก สับสนในตัวเองกับเรื่องราวที่ต้องเผชิญ เนื้อเรื่องสลับการเล่าจากมุมมองของทั้งสามคน ไม่ได้เด่นที่พระเอกคนเดียวเหมือนภาคที่แล้ว เห็นทั้งมุมมองนางเอกไพเพอร์ ตอนคุณแม่ส่งสัญลักษณ์มารับเป็นลูกนี่อย่างฮา ความสามารถพิเศษคุณเธอขี้โกงใช้ได้ ช่วยการผจญภัยได้เยอะ ส่วนลีโอก็โคตรเก่งเลย ความสามารถสุดยอดมาก ไม่ได้เป็นผู้ช่วยพระเอกแบบตลกติงต๊องอย่างเดียว แต่เรายังชอบกลุ่มตัวละครเดิมมากกว่า แต่เดี๋ยวอ่านไปหลายๆ เล่ม ผูกพันกว่านี้ ก็คงชอบเหมือนกันแหละ

เพราะมีตัวเอกสามคน ช่วงแรกตอนแนะนำตัวละครเลยยืดๆ หน่อย จนถึง 1/3 เล่ม เริ่มผจญภัย ทีนี้ล่ะ บรรยากาศแอกชั่นกลับมาเต็มที่เหมือนเดิม บวกกับปมปริศนาเรื่องตัวตนของเจสัน ทำให้เล่มนี้อ่านสนุกน่าติดตาม มีพวกเทพ พวกอสูรตัวใหม่ บอสใหญ่คนใหม่ และที่เพิ่มเข้ามาในภาคนี้ ฉลาดมากเลย คือเอาเรื่องความเป็นกรีกสลับโรมันมาใส่ เป็นสีสันเพิ่มมาดี พวกเทพกับเทพีจากภาคก่อนไม่ค่อยปรากฏตัวเล่มนี้ แต่คนที่มีบทนี่โคตรตลกเลย เราชอบคนนี้มาตั้งแต่ภาคที่แล้ว ขำตอนพวกนี้ไปช่วยแล้วยืนคุยกันหน้ากรงขัง แล้วเจ๊แกบอกว่า "ฉันอยู่นี่นะยะ ช่วยสนใจหน่อย" สรุปว่า เล่มนี้ แฟนเพอร์ซีย์ แจ็คสัน พลาดไม่ได้ด้วยประการทั้งปวง เฮ้อ มีเรื่องที่ต้องรออ่านเพิ่มมาอีกแล้ว ผู้เขียนบอกชุดนี้มี 5 เล่ม กะจะออกปีละเล่ม ก็รอไปอีก 4 ปีกว่าจะได้อ่านจบ

การอ่านซีรีส์เพอร์ซีย์กับซีรีส์นี้ จริงๆ ไม่เคยอ่านเรื่องตำนานกรีก-โรมันมาก่อนก็อ่านสนุกรู้เรื่อง แต่ว่า ถ้ารู้เรื่องไปด้วย มันก็อาจจะอ่านสนุกขึ้นใช่ไหมล่ะ อย่างฉากที่คนแคมป์ฮาล์ฟบลัดมารับเจสัน ผู้ที่ใส่รองเท้าข้างเดียว ถ้าเราอ่านเรื่องต้นฉบับเจสัน (อภินิหารขนแกะทองคำ) มา ก็จะยิ่งชอบที่ได้เปรียบเทียบกับเรื่องในตำนาน ตอนอ่านซีรีส์นี้ทำให้เราต้องคอยเปิดอ่านเรื่องดั้งเดิมไปด้วย เพราะรายละเอียดมันเยอะ จำไม่หมด เรามีหนังสือแนวนี้เป็นสิบเล่มเพราะชอบอ่านตั้งแต่เด็ก มีสามเล่มที่เอาไว้เป็นคู่มือเปิดบ่อยๆ

- เทวดาฝรั่ง ของ อ. สายสุวรรณ เล่มนี้อ่านสนุกมาก เสียแต่ย่อไปหน่อย ฉบับพิมพ์เก่าเราเปิดบ่อย โดยเฉพาะเรื่องของคิวปิดกับไซคี พอพิมพ์ใหม่ก็ซื้ออีก
- ตำนานกรีก-โรมัน (ฉบับสมบูรณ์) โดย มาลัย (จุฑารัตน์) นี่ก็ชอบมากอ่านมาตั้งแต่สมัยลงเป็นตอนๆ ในกุลสตรี
- ปกรณัมปรัมปรา โดย นพมาส แววหงส์ เล่มนี้มันแปลมาจาก Mythology ของ Edith Hamilton ถือเป็นเล่มไฟต์บังคับ

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น