คะแนน : 8.5
วรรณกรรมเยาวชนแฟนตาซี ชุด Underland Chronicles เล่มที่ 1 ผลงานก่อนหน้าไตรภาค The Hunger Games ของ Suzanne Collins เรื่องราวของเด็กชายอายุ 11 ปี ชื่อ เกรเกอร์ อาศัยอยู่ในนิวยอร์กยุคปัจจุบัน วันหนึ่งเขาพาน้องสาววัย 2 ขวบ ไปที่ห้องซักผ้าของใต้ถุนอพาร์ตเมนต์ และบังเอิญพลัดตกลงไปในโพรงใต้ดิน เป็นการตกที่ลึกลงเนิ่นนานจนไปถึงดินแดนใต้พิภพชื่ออันเดอร์แลนด์ ที่นั่นเป็นดินแดนที่มีมนุษย์อาศัยอยู่ร่วมกันอย่างไม่ค่อยสงบสุขนักกับสิ่งมีชีวิตเผ่าพันธุ์อื่น คือ ค้างคาวยักษ์ แมลงสาบยักษ์ แมงมุมยักษ์ และหนูยักษ์ แล้วเกรเกอร์ก็พบว่า เขาอาจเป็นนักรบที่อยู่ในคำพยากรณ์ ที่จะเป็นผู้นำคณะสืบเสาะออกเดินทาง เพื่อนำความหวังกลับสู่ทั้งมวล
เรื่องชุดนี้จะเด็กกว่า HG หน่อย และออกแนวแฟนตาซีมากๆ ช่วงแรกแม้น่าสนใจ แต่ก็ยังให้ความรู้สึกไม่ต่างจากนิยายแฟนตาซีเด็กๆ ทั่วไปเท่าไหร่นัก คือเห็นฉากใหม่ ที่มีสิ่งมีชีวิตประหลาดต่างๆ แต่พออ่านไปสักพักจนถึง 1/3 ก็จะเริ่มรู้สึกว่าเรื่องนี้ไม่ธรรมดา และซึมซับได้ถึงความดีของเรื่องนี้เพิ่มขึ้นเรื่อยๆ จนถึงระดับยอดเยี่ยมมากในตอนท้าย เนื้อเรื่องอาจฟังดูไม่ออริจินอล เรื่องราวเดินตามขนบตำนานสมัยเก่าที่ต้องเล่นเรื่องคำทำนาย คำพยากรณ์ มีการออกเดินทางทำเควสต์ แต่ก็เอามาประยุกต์เข้ากับการดำเนินเรื่องได้ดีมาก
เรื่องดำเนินไปเร็ว ไม่เยิ่นเย้อ มีฉากแอกชั่นลุ้นสนุกๆ หลายตอน และ Suzanne Collins สร้างตัวละครของเธอได้ดีมากเลย ทั้งตัวเอกและตัวละครอื่นที่ร่วมเดินทาง เราชอบที่เกรเกอร์ซึ่งเป็นเด็กสมัยใหม่ ไปถึงอันเดอร์แลนด์ก็ไม่ได้ไปฝึกดาบจับอาวุธ แต่จะใช้ไหวพริบปฏิภาณช่วยในการเดินทางผจญภัยของเขามากกว่า น้องสาวของเกรเกอร์ก็มีบทสำคัญ ไม่นึกว่าเด็ก 2 ขวบจะทำอะไรในการผจญภัยได้มากนัก แต่ในเรื่องใส่มาได้ดีมาก เป็นธรรมชาติด้วย น่ารัก ชอบ
ฟังเผินๆ นี่เป็นแค่เรื่องแฟนตาซีเด็กๆ แต่ไม่ใช่แค่นั้น ผู้แต่งสอดแทรกเนื้อหาเรื่องการต่อต้านสงครามเข้าไปในนิยายได้อย่างแนบเนียน ที่อันเดอร์แลนด์มีสิ่งมีชีวิตหลากหลาย แล้วดูเลือกมาแต่ละพันธุ์สิ จงใจเลือกมาแต่ไอ้ตัวที่คนรังเกียจทั้งนั้น อันเดอร์แลนด์ตกอยู่ในภาวะสงคราม ซึ่งสาเหตุที่แท้จริงก็ไม่ใช่อะไรนอกจากอคติที่มีต่อกันระหว่างเผ่าพันธุ์ แต่ในคณะเดินทาง เราได้เห็นมนุษย์เดินทางร่วมกับเผ่าอื่น เราทึ่งกับบทบาทของพวกแมลงสาบกับแมงมุมในทีมมาก ตอนแรกก็ไม่รู้ว่าไอ้ตัวพวกนี้จะมาทำอะไร แต่ที่จริงพวกเขามีประโยชน์มากเลย แล้วถ้าในเรื่องนี้ แสดงให้เห็นว่า คนควรจะให้เกียรติและอยู่ร่วมกับหนูกับแมลงสาบอย่างสงบได้ แล้วในโลกแห่งความเป็นจริงล่ะ คนกับคนสปีชีส์เดียวกันแท้ๆ จะรบกันไปทำไม
ประวัติผู้แต่งท้ายเล่มบอกว่า Suzanne Collins เป็นลูกทหาร พ่อเคยรบในสงครามเวียดนาม แต่พ่อปลูกฝังให้เธอรู้จักความเลวร้ายของสงครามมาตั้งแต่เด็ก นิยายที่เธอแต่งจึงสอดแทรกเรื่องการต่อต้านการสู้รบไว้ตลอด อ่านเรื่องนี้ แล้วอดเปรียบเทียบเรื่องจริงไม่ได้ ติดตามข่าวด้วยความเซ็งในสถานการณ์บ้านเมืองปัจจุบันเต็มที ไม่เข้าใจว่า ยุคนี้สมัยนี้แล้ว ทำไมยังบ้าไม่เลิก การหยิบเรื่องพระยาละแวกมากระทบเพื่อนบ้านนี่ ฟังดูตรรกะบกพร่องอย่างรุนแรง สิ่งที่พระยาละแวกทำนี่ต่างจากสิ่งที่พระนเรศวรทำตรงไหน การยกประวัติศาสตร์เก่ามาอ้างก็ยกไม่หมด เอาดีเข้าตัว เอาชั่วให้คนอื่น การพูดเรื่องเสียดินแดนตารางนิ้วเดียวก็ไม่ได้ เป็นความเพ้อเจ้อไร้ที่เปรียบ เคยได้ยินคำว่า โลกไร้พรมแดนบ้างมั้ยเนี่ย พวกที่เย้วๆ เชียร์ให้รบ คือคนที่อยู่ในเมืองห่างไกลสถานการณ์ นั่งสบายเชียร์หน้าจอ ไม่เคยรับรู้จริงหรอกว่า สงครามมันสร้างความเดือดร้อนให้คนที่ต้องเผชิญ ไม่นับความเสียหายทางอื่นๆ อย่างเรื่องเศรษฐกิจอีก โอ๊ย พูดเรื่องนี้แล้วปวดตับ
1 ความคิดเห็น:
จะมาบอกว่า ซีรีย์ชุดนี้เป็นซีรี่ย์ชุดโปรดของเราเลยล่ะ
ชอบมากกว่า HG มากๆ ..
แสดงความคิดเห็น