วันเสาร์ที่ 23 ตุลาคม พ.ศ. 2553

Tales of Toyland - Enid Blyton

คะแนน : 10

นี่คือหนึ่งในนิทานแสนรักที่เราประทับใจที่สุดเรื่องหนึ่งสมัยเด็ก ถ้าคุณเป็นเด็กยุคแฟนฉันเหมือนเรา คุณอาจไม่รู้จักหนังสือชื่อ Tales of Toyland แต่ถ้าบอกว่า นี่คือเรื่อง "ตุ๊กตากลาสีผจญภัย" อาจจะมีใครร้องอ๋อขึ้นมาบ้าง เราได้อ่านนิทานเรื่องนี้ครั้งแรกตอนสัก 7-8 ขวบมั้ง จากการรื้อค้นกองนิตยสารขวัญเรือนเล่มเก่าๆ ของที่บ้าน สมัยนั้นในขวัญเรือนจะมีคอลัมน์นิทานเด็กกับนิทานผู้ใหญ่ เป็นส่วนเดียวที่เราไล่อ่านจากนิตยสารกองนั้น ตุ๊กตากลาสีผจญภัยถูกลงเป็นตอนๆ ในส่วนของนิทานเด็กอยู่หลายเล่มติดกัน จำไม่ได้แล้วว่าปีไหน เพราะหนังสือพวกนั้นถูกชั่งกิโลขายไปหมดนานแล้ว

เนื้อเรื่องของตุ๊กตากลาสีผจญภัยก็ตรงตามชื่อเรื่องล่ะนะ เป็นเรื่องของตุ๊กตากลาสีชื่อเริงรื่น กับตุ๊กตานางฟ้าชื่อดาวน้อย พวกเขาถูกของเล่นอื่นรังแก ก็เลยหนีออกจากบ้านเจ้าของ เดินทางผจญภัย ผ่านโพรงกระต่าย ขึ้นรถไฟมาถึงเมืองของเล่น และสร้างบ้านตุ๊กตาอาศัยอยู่ร่วมกันสองคนในฐานะสามีภรรยา แล้วก็จะมีเรื่องราวจัดงานปาร์ตี้ ช่วยตุ๊กตาเพื่อนบ้าน อะไรทำนองนี้อยู่หลายตอน จนตอนจบคือ ซานตาคลอสมาถึงเมืองของเล่นแล้วเลือกเริงรื่นกับดาวน้อยเข้าถุง เพื่อนำไปแจกให้เด็กๆ แต่ตุ๊กตาทั้งสองร้องไห้เสียใจ จนซานตาคลอสตกใจปล่อยทั้งสองกลับไปดังเดิม ลงท้ายด้วยการบอกว่า เริงรื่นกับดาวน้อยก็อาศัยอยู่ในเมืองตุ๊กตาอย่างมีความสุขตลอดไป

เราชอบนิทานเรื่องนี้มากๆ มันมอบความใฝ่ฝันและจินตนาการให้เรา เมืองที่ตุ๊กตาพูดได้ ได้สร้างบ้าน ต่อเฟอร์นิเจอร์เอง กี่ครั้งที่มันพาให้เราฝันถึงแดนไกลที่ไม่เคยเจอบนโลกจริง และทำให้เรารู้ว่า หนังสือพาเราไปไหนก็ได้ โลกในหนังสือสนุกและน่าตื่นเต้นขนาดไหน แต่ตอนนั้นไม่รู้ตัวหรอก สมัยเด็กก็ไม่รู้จักรักษาหนังสือเป็นสมบัติของตัว จนโตมาเมื่อสักสิบปีก่อน เราก็คิดถึงนิทานเรื่องนี้ขึ้นมา จนถึงขนาดไปหอสมุดแห่งชาติ ขอถ่ายเอกสารจากนิตยสารขวัญเรือนมาเลยนะ แล้วรู้มั้ยคะว่า หอสมุดแห่งชาติก็มีขวัญเรือนไม่ครบ ก็เลยขาดนิทานเรื่องนี้ไป 1-2 ตอน อยากจะอ่านแบบสมบูรณ์อีกครั้ง เราแน่ใจว่า นิทานเรื่องนี้เป็นหนังสือแปลแน่ๆ แต่ไม่รู้ว่ามาจากเรื่องอะไร ใครแต่ง แล้วสำนวนแปลภาษาไทยของ อ. สนิทวงศ์ ท่านเล่นแปลชื่อตัวละครเป็นไทยด้วย เคยไปตั้งกระทู้ถามในพันทิปก็ไม่ได้ความ มีคนบอกว่ามันเคยมีรวมเล่มเล็กๆ ชื่อการผจญภัยของตุ๊กตากลาสี ก็ไม่เคยเห็น จนปัญญาจะตามหา และสิบปีนี้จากการย้ายหนังสือไปมา ตอนนี้ไอ้ที่ไปถ่ายเอกสารมาก็ไม่รู้อยู่ไหนแล้วเหมือนกันค่ะ

จนเมื่อไม่นานมานี้จากการอ่านเรื่องปิ๊ปปี้ ทำให้เรานึกถึงเรื่องนี้อีกครั้ง และด้วย Google Books กับคีย์เวิร์ดว่า sailor doll ก็พาเราไล่ไปเรื่อยๆ ตามเว็บ จนในที่สุดก็ทราบว่า มันคือเรื่อง Tales of Toyland นี่เอง ตุ๊กตากลาสีชื่อ Jolly ตุ๊กตานางฟ้าชื่อ Tiptoe และผู้แต่งก็ไม่ใช่ใครที่ไหน Enid Blyton นักเขียนเรื่องเด็กคนโปรดของเรานั่นเอง แต่เราไม่เคยคาดคิดมาก่อนเลยว่า ตุ๊กตากลาสีจะเป็นเรื่องของเธอ เพราะเรานึกถึงแต่เรื่องสไตล์ห้าสหายผจญภัยมากกว่า (เราเป็นแฟนแนวนี้ มีหมดทุกเรื่อง สี่สหาย ห้าสหาย หกสหาย เจ็ดสหาย ฯลฯ เล่มไหนมีชื่อ Enid Blyton ก็ซื้อทั้งนั้น ว่าแต่ใครรู้บ้างคะว่า จอร์จ/จอร์จิน่า เคยมีชื่อไทยว่า ยอด/ยอดอุรา) ตอนหาเจอนี่ หัวใจพองเลย ปลื้มมาก และก็ไม่รอช้า จัดการสั่งซื้อจาก eBay ทันที ในที่สุดก็ได้มาอยู่ในมือจนได้

นิทานสั้นมาก 90 หน้าเอง อ่านแป๊บเดียวก็จบ ทั้งๆ ที่ตอนเด็กรู้สึกว่ามันยาวกว่านี้ พอมาอ่านอีกทีตอนโต เราเพิ่งรู้นี่แหละว่า ดาวน้อย (ชื่อไทยเพราะกว่าชื่อจริงมาก) เป็นผู้หญิงขี้แย ทำอะไรไม่เป็น เห็นแก่ตัว อะไรที่ดีๆ ในเรื่องเป็นบทของเริงรื่นทั้งนั้น แถมตอนมาถึงเมืองตุ๊กตานะ เริงรื่นบอกดาวน้อยหน้าตาเฉยว่า เราควรแต่งงานกัน เธอจะได้ชุนถุงเท้าให้ฉัน แล้วฉันจะดูแลเธอเอง มิน่า อีนิด ไบลตัน ถึงถูกวิจารณ์เรื่องเหยียดเพศ ตอนเป็นเด็กไม่รับรู้ประเด็นพวกนั้นหรอก แหม แต่เรื่องมันก็แต่งมาตั้งนานแล้วล่ะนะ ตั้งแต่สมัยสงครามโลก ปล่อยไปไม่คิดมาก

ตอนเราอ่านประวัติของอีนิด ไบลตัน ตกใจเลยตอนเจอว่า ลูกสาวคนเล็กของเธอบอกว่า แม่เป็นคนหลงตัวเอง เห็นแก่ตัว ตอนเด็กเธอกลัวแม่ แต่ตอนโต เธอสมเพชแม่มากกว่า เราอึ้งไปเลย นักเขียนคนโปรดสมัยเด็กของเรานะนั่น ตอนเด็กเราไม่เคยใส่ใจว่านักเขียนจะเป็นคนยังไง แต่ถ้าเราไม่เจอข้อมูลนี้ ก็คงนึกไปธรรมดาว่า เขียนเรื่องเด็กก็คงรักเด็กเข้าใจเด็ก ความฝันวัยเยาว์ถูกทำลายลงไปเล็กน้อย โลกของเด็กกับโลกของผู้ใหญ่ต่างกันจริงๆ ฮ่าฮ่า แต่ยังไงเราก็ยังรักเรื่องนี้มากอยู่ดีค่ะ เพราะมันคือสิ่งเตือนใจถึงความทรงจำแสนสุขในวัยเด็กของเรา

2 ความคิดเห็น:

ไม่ระบุชื่อ กล่าวว่า...

ชอบเรื่องนี้มากๆเหมือนกันค่ะ ตามหามาหลายปีเลยกว่าจะรู้ว่าชื่อภาษาอังกฤษว่าอะไร เรามีฉบับรวมเล่มภาษาไทยล่ะค่ะ ^^ อยากได้ภาษาอังกฤษจัง แต่คงจะหายากมากๆแน่เลย

สมัยก่อนอ่านเจอเรื่องแต่งงานกับชุนถุงเท้านั่นนึกอยู่เลยว่า อะไรอะ แต่งงานแล้วต้องเย็บผ้าด้วย ไม่เอ๊า 555

Nas กล่าวว่า...

โอ๊ย อิจฉาค่ะ ตาร้อนผ่าว มีรวมเล่มภาษาไทยด้วย เรายังอยากได้ฉบับไทยเก็บบ้าง เรื่องนี้ภาษาอังกฤษหาไม่ยากค่ะ ใน ebay.co.uk มีคนมาปล่อยเรื่อยๆ ส่วนภาษาไทยนี่มันเป็น rare item มาก ไม่เคยเห็นมีขายตามเว็บเลย ใครมีก็คงหวงกันหมด ^_^

แสดงความคิดเห็น