วันเสาร์ที่ 30 กรกฎาคม พ.ศ. 2554

Lady Elizabeth's Comet - Sheila Simonson

คะแนน : 8

กำลังยุ่งๆ อยู่จนกว่างานโครงการนี้จะเสร็จก็ยังอีกหลายวัน แต่ก็ขอเบรกหน่อยเหอะ เวลาอยากอ่านเพื่อพักสมองนี่ นิยายรีเจนซี่ก็ดูเป็นตัวเลือกที่ปลอดภัยดี แถมเรื่องไม่ยาวอ่านจบได้เร็ว

เลดี้เอลิซาเบธ คอนเวย์ เป็นผู้หญิงที่ไม่เหมือนใครในยุคของเธอ สนใจใฝ่ฝันกับเรื่องดาราศาสตร์จนไม่อยากแต่งงานใช้ชีวิตครอบครัว เธอเป็นลูกคนโตในบรรดาลูกสาว 8 คนของท่านเอิร์ล พอพ่อตาย บรรดาศักดิ์เลยตกไปอยู่กับญาติห่างๆ ที่รุ่นพ่อไม่ถูกกัน ก็เลยไม่เคยเห็นกันมาก่อน เมื่อเอิร์ลแห่งแคลนรอสคนใหม่เดินทางมายังบ้านประจำตระกูล จึงได้พบกับการต้อนรับที่ติดจะเย็นชา แต่เมื่อเธอได้รู้จักเขามากขึ้นเรื่อยๆ ก็ทำให้ความรู้สึกของเธอเปลี่ยนแปลงไป

อ่านครึ่งแรกของเล่มด้วยความรู้สึกว่า เฮ้อ ไม่น่าเชื่อรีวิว AAR เลย คือบางทีรีวิวจากคนเดียว อ่านตามแล้วความรู้สึกอาจจะออกมาคนละทางกับเขาเลยก็เป็นได้ แล้วไม่เคยจำชื่อคนรีวิวซะที เลยไม่ค่อยรู้ว่าแนวตรงกันรึเปล่า ถ้าเป็น Amazon จะได้ความเห็นหลากหลายกว่า แต่ AAR ก็ดี ตรงที่คนรีวิวเป็นนักอ่านโรแมนซ์ขนานแท้ ก็ช่วยการตัดสินใจได้เยอะ แล้วผลสุดท้ายของเรื่องนี้ก็ออกมาดีอย่างเขาว่าจริงซะด้วย

ช่วงแรกเราไม่ชอบนางเอกเลย แล้วก็รู้สึกสงสารพระเอก มีฉากเดียวที่ปิ๊งนิดนึง คือตอนเล่นหมากรุก นอกนั้นอ่านไปแบบงั้นๆ เพราะคุณนางเอกเธอก็ยังไม่มีท่าทีอะไรกับพระเอกซะที แถมตกปากรับคำจะแต่งงานกับเพื่อนสนิทพระเอก คนที่เธอคุ้นเคยดีมาก่อนไปอีกต่างหาก จน 2/3 เรื่องแล้วเราก็ยังไม่เห็นเลยว่า พระเอกนางเอกจะมาลงเอยกันด้วยดี เรื่องมันจะขึ้นมาถึงเกรด A ได้ยังไง

แต่พอถึงฉากที่เอลิซาเบธขอถอนหมั้น ก็ทำเราตื่นเลย เป็นคำพูดบอกเลิกกับผู้ชายที่ฟังแล้วประทับใจมาก ช่างฟังดูมีเหตุมีผล ให้น่าเห็นใจเข้าใจสถานการณ์และความรู้สึกของผู้หญิงสมัยนั้น จนทำให้แว้บขึ้นมาในหัวว่า ยามที่ Jane Austen ยังมีชีวิต ตกลงแต่งงานกับผู้ชายคนหนึ่ง แล้วเปลี่ยนใจปฏิเสธวันถัดมา เธอก็อาจจะพูดอะไรทำนองนี้ก็เป็นได้

หลังจากนั้นพอนางเอกรู้ใจตัวเองแล้ว เรื่องก็อ่านสนุกขึ้นมากๆ กราฟความชอบพุ่งกระฉูด ท้ายเรื่องน่ารักจริงอะไรจริง นางเอกทำคะแนนคืนจากที่เคยขัดใจตอนต้นเรื่องได้หมด แล้วก็ชอบตอนใกล้จบ คำบอกรักหน้าตาเฉยของพระเอกเรียกรอยยิ้มได้อีก อ่านจบแล้วอารมณ์ดีสมใจ

วันอาทิตย์ที่ 24 กรกฎาคม พ.ศ. 2554

The Secret Mistress - Mary Balogh

คะแนน : 7.5

แว้บอ่านนิยายได้เล่มนึง เป็นชุด Mistress เล่มใหม่ ในชุดนี้เราชอบ More Than a Mistress (คะแนน 8) แต่ไม่ชอบ No Man's Mistress (คะแนน 6) เอาซะเลย ไม่ใช่เพราะว่านางเอกเคยเป็นหญิงงามเมืองมาก่อนด้วย เพราะเราชอบเรื่อง A Precious Jewel ได้ แปลว่าอดีตไม่ใช่สาเหตุ แต่เราไม่ชอบนิสัยนางเอก รู้สึกไม่น่าเห็นใจยังไงไม่รู้ ทำให้คิดว่า เรื่องของ MB มีความหลากหลายสูง บางทีพล็อตเรื่องดูเหมือนจะคล้ายกัน แต่พระเอกนางเอกไม่เหมือนกัน อารมณ์ก็ออกมาคนละเรื่องกันเลย แล้วในเรื่องชุดเดียวกัน แต่ละเล่มก็อาจจะออกคนละแนวได้อีก เวลาบอกว่าชอบชุดไหน บางทีก็ไม่ได้ชอบทุกเล่มในชุด ตอนที่เราจัดอันดับนักเขียนคนโปรดของตัวเอง เราอยากใส่ชื่อ Mary Balogh นะ แต่เพราะความที่มีเรื่องของ MB ที่เราไม่ชอบอยู่หลายเรื่อง ค่าเบี่ยงเบนมาตรฐานของคะแนนเลยออกมาสูงไปหน่อย ทำให้หลุดโผ

The Secret Mistress เป็นเล่ม 3 ในชุด แต่เป็นเหตุการณ์ก่อนหน้าเล่ม 1-2 ตอนแรกพอเห็นเล่มนี้ ชะงักนิดนึงเพราะนึกถึงเล่มที่แล้ว ช่วงนี้ไม่อยากอ่านอะไรมีประเด็น แต่พอนึกถึงนางเอกที่บอกว่าเป็นน้องสาวคนเล็กของพระเอกทั้งสองเล่มก่อน เท่าที่จำได้ เป็นผู้หญิงพูดจาเรื่อยเจื้อย แล้วก็แต่งตัวแปลกๆ บุคลิกแบบนั้น เรื่องคงไม่ออกมาเครียดหรอกมั้ง น่าจะเบาๆ สบายใจได้ ก็อ่านเลยไม่ต้องรอเช็ครีวิวเยอะ

เล่มนี้เล่าย้อนเรื่องราวของ เลดี้แอนเจลีน ดัดลีย์ ตอนพบรักและแต่งงานกับเอิร์ลแห่งเฮย์เวิร์ด เล่นประเด็นเรื่องแรงดึงดูดของคู่ตรงข้าม แอนจี้ออกแนวโก๊ะๆ หน่อย ร่าเริง จิตใจดี คุยจ้อไปเรื่อยๆ เวลาอ่านไปๆ ก็มีขำหน่อย เวลานางเอกพูด บางทีกว่าจะเจอเครื่องหมายอัญประกาศปิดก็ยาวเลย ส่วนเอ็ดเวิร์ด เป็นพวกเคร่งครัดเจ้าระเบียบ ตรงเป๊ะอยู่บนเส้น ถึงแม้บุคลิกภายนอกของทั้งคู่จะดูไม่น่าเข้ากันได้ แต่ก็เหมือนทั้งคู่มีสิ่งที่จะมาเติมเต็มซึ่งกันและกัน ถือเป็นการแสดงฝีมือของ MB อีกครั้งที่ทำให้ตัวละครดาดๆ ภาคก่อนกลายเป็นตัวละครที่น่าสนใจสมเป็นพระเอกนางเอกได้

ถึงเรื่องนี้จะไม่เครียด แต่ก็ไม่ได้เป็นเรื่องตลกอ่านเอาฮา แอนจี้โตมากับครอบครัวที่ไม่อบอุ่น พ่อแม่ที่ตายไปแล้วต่างก็เหลวแหลก พี่ชายสองคนก็แสบใช่ย่อย ถือว่าแอนจี้ยังโชคดี ส่วนใหญ่โตมาแบบถูกทิ้งให้เหงาคนเดียว แผลใจยังไม่มากเท่าพี่ๆ แต่เพราะความที่โตมากับคนรอบข้างแบบนั้น ทำให้เธออยากได้คนที่มั่นคงเป็นหลักยึด ก็เลยปิ๊งเอ็ดเวิร์ดตั้งแต่แรกที่เจอ เพราะความเป็นสุภาพบุรุษทุกกระเบียดของเขา

พระเอกเรื่องนี้ออกจะแข็งทื่อมาก เขาเคร่งกับตัวเองไม่พอ แต่ใครไม่เคร่งด้วย เขาก็จะตำหนิวิจารณ์ไม่พอใจ เพราะมีปมนิดหน่อยเรื่องพี่ชายที่ตายไปเป็นคนเสเพล ซึ่งจะว่าไปมันก็เป็นบุคลิกพระเอกที่น่ารำคาญอยู่ แต่โชคดีเราไม่รู้สึกมากเท่าไหร่ เพราะมันมีคำพูดตอนหนึ่งที่เขาพูดกับแอนจี้ตอนต้นๆ เรื่อง เกี่ยวกับการแต่งตัวของเธอ ที่ชอบใส่หมวกแต่ละใบที่คนอื่นว่าน่าเกลียด เขาพูดยาวน่าประทับใจ แต่สรุปใจความได้ประมาณว่า "สำคัญที่คุณชอบ อย่าเปลี่ยนตัวเอง เป็นผู้นำแฟชั่นดีกว่าเป็นผู้ตามไปอย่างนั้น แม้จะเป็นผู้นำที่ไม่มีใครตามก็ตาม" ถ้าเราเป็นแอนจี้ ได้ยินอย่างนี้ต่อให้ไม่ได้แอบรักอยู่ก่อนแล้ว ก็ต้องหลงรักเอ็ดเวิร์ดตอนนั้นแน่ๆ ฉากนี้ทำให้เรารู้สึกดีกับเขามาก จนไม่ถือสาหาความพฤติกรรมของเขาที่ตามมา อีตอนที่วุ่นวายวิ่งไปขอแต่งงานกับผู้หญิงคนอื่น ที่เขาคิดว่าเหมาะสมกับตัวเองมากกว่า

เนื้อเรื่องไม่ได้มีอะไรมาก อ่านสบายๆ ไปเรื่อยๆ มีแต่เหตุการณ์ธรรมดา เจอกันคุยกันตามงานเลี้ยง ตอนแรกจากชื่อเรื่อง เราก็นึกสงสัยเหมือนกันว่า หรือแอนจี้จะต้องมีปลอมตัวไปเป็นนางบำเรออะไรซะอีก แต่ไม่มีแบบนั้นหรอก เพราะมันเป็นเรื่องในชุดเลยต้องตั้งชื่อแบบนี้ อีตอนอธิบายว่า Secret Mistress หมายความว่าไง ยังหัวเราะเลย เล่นง่ายงี้เลยเหรอ แต่ก็เอาค่ะ แบบนี้เรื่องเป็นธรรมชาติดีแล้ว ถือว่าอ่านเล่มนี้รู้สึกโอเคตั้งแต่ต้นจนจบล่ะ บทส่งท้ายเล่มนี้ก็น่าประทับใจดี

ในเล่มนี้ เราเห็นพระเอกเล่มก่อนๆ นิดหน่อย แต่พอมองผ่านสายตาแอนจี้ จะเห็นว่า จอซลีน พี่ชายคนโต ยังดูเป็นดยุคเพลย์บอยอยู่ ราศีไม่ค่อยจับ ส่วนเฟอร์ดินานด์ พี่ชายคนรอง เธอก็คิดว่าคงจะเจริญรอยตามพี่ชาย ทำให้รู้สึกว่า พี่น้องบ้านนี้รักกันดีนะ แต่กลับไม่เข้าใจนิสัยและตัวตนที่แท้จริงของกันและกันเลย ก็เป็นมุมกลับที่ดี เพราะในเล่มก่อนๆ พวกพี่ชายก็ไม่เข้าใจน้องสาวน้องเขยตัวเองเลยสักนิดเหมือนกัน มันก็จริงนะ บางทีเราก็อยากแสดงตัวตนลึกๆ ของเราให้คนที่รักและจะเข้าใจเราดีที่สุดเพียงคนเดียวรู้เท่านั้น

ปิดท้ายด้วยการอ่านเรื่องสั้น Now a Bride ที่เอา deleted scenes ฉากแต่งงาน ฉากกลับบ้าน ของเรื่อง More Than a Mistress + No Man's Mistress มารวมกัน บวก Epilogue ของทั้งซีรีส์ เป็นงานรวมญาติเฉยๆ ไม่มีอะไรเลย

หมายเหตุ: ผ่านมาหลายวันแล้ว ยังรู้สึกชอบพระเอกนางเอกคู่นี้ไม่หาย เพราะงั้นก็เลยเพิ่มคะแนนให้เรื่องนี้อีก 0.5 แล้วกัน